Mansion Sports – ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025/2026 จะกลับมาสร้างความเร้าใจอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ เมื่อสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ จะกลายเป็นสมรภูมิของบิ๊กแมตช์ระหว่าง เชลซี และ ลิเวอร์พูล การแข่งขันมีกำหนดลงสนามในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2025 เวลา 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และได้รับการคาดหมายว่าจะเต็มไปด้วยความดุเดือดตั้งแต่วินาทีแรก

ทั้งสองทีมต่างอยู่ในช่วงที่เปราะบางทางสภาพจิตใจ เชลซียังพยายามค้นหาความสม่ำเสมอภายใต้การนำของ เอ็นโซ มาเรสก้า ขณะที่ ลิเวอร์พูล ในฐานะแชมป์เก่า กลับต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลหลังแพ้ติดต่อกันสองนัดในทุกรายการ คำถามสำคัญคือ ใครจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาคว้าความมั่นใจในศึกใหญ่ครั้งนี้ได้

สถานการณ์ของเชลซีก่อนเกมสำคัญ

เชลซียังไม่สามารถรักษาความต่อเนื่องได้ในช่วงออกสตาร์ตซีซั่น จากการลงสนาม 6 นัดในพรีเมียร์ลีก พวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัด เสมอ 2 และแพ้อีก 2 เกม สถานการณ์เลวร้ายลงเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ถูกไล่ออกจากสนามในเกมพ่ายไบรท์ตัน 1-3 คารังเหย้า

แม้จะมีข่าวดีเล็กน้อยหลังเฉือนชนะ เบนฟิก้า 1-0 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกลางสัปดาห์ แต่ปัญหาสำคัญคืออาการบาดเจ็บและโทษแบนของนักเตะหลักหลายราย ทั้ง โคล พาลเมอร์, มิคไฮโล มูดริก, เลวี โคลวิลล์ และ ชาโลบาห์ ต่างไม่พร้อมลงสนาม อย่างไรก็ตาม เชลซียังมีทีเด็ดในแนวรุกที่น่าจับตา ไม่ว่าจะเป็น เชา เปโดร, เอสเตวาโอ และ เปโดร เนโต้ ที่อาจสร้างปัญหาให้แนวรับหงส์แดงได้ แต่จุดอ่อนสำคัญยังคงเป็นความไม่แน่นอนในแนวรับที่ มาเรสก้า ต้องรีบแก้ไข

สถานการณ์ของลิเวอร์พูลก่อนดวลเดือด

ลิเวอร์พูล ของ อาร์เน่ สลอต เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าชัย 5 นัดติดในลีก แต่ความมั่นใจสั่นคลอนทันทีหลังพ่าย คริสตัล พาเลซ และยิ่งซ้ำเติมเมื่อบุกแพ้ กาลาตาซาราย ในศึกแชมเปียนส์ลีกจากลูกจุดโทษของ วิคตอร์ โอซิมเฮน

ปัญหาหนักที่สุดคือการเสีย อาลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารมือหนึ่งจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ จอร์จี้ มามาร์ดัชวิลี มีแนวโน้มได้ลงเฝ้าเสาแทน ขณะที่ ฮูโก้ เอคิติเก อาจพลาดลงสนามเนื่องจากสภาพความฟิตไม่สมบูรณ์ ถึงกระนั้น แนวรุกยังคงน่าเกรงขาม โดยมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล และ โคดี้ กัคโป คอยสนับสนุนศูนย์หน้าตัวเป้า อเล็กซานเดอร์ อิซัค

แรงกดดันยังคงอยู่ที่ “หงส์แดง” เพราะหากพลาดแต้มอีก อาร์เซน่อลอาจขึ้นแซงรั้งจ่าฝูงได้ทันที

คาดการณ์รายชื่อผู้เล่น เชลซี พบ ลิเวอร์พูล 2025

เชลซี (ระบบ 4-2-3-1)

• ผู้รักษาประตู: ซานเชซ
• กองหลัง: เจมส์, อาชิอัมปง, บาเดียชิล, คูคูเรญ่า
• กองกลางรับ: เฟร์นานเดซ, ไกเซโด้
• กองกลางรุก: เอสเตวาโอ, บัวนาโนเต้, เนโต้
• ศูนย์หน้า: เปโดร
• ผู้จัดการทีม: เอ็นโซ มาเรสก้า

นักเตะที่หายไปคือ ชาโลบาห์, มูดริก, พาลเมอร์, เดลัป และ โคลวิลล์ ส่วน เวสลีย์ โฟฟาน่า และ อันเดรย์ ซานโตส ยังต้องรอทดสอบความฟิต

ลิเวอร์พูล (ระบบ 4-2-3-1)

• ผู้รักษาประตู: มามาร์ดัชวิลี
• กองหลัง: ฟริมปง, โกนาเต้, ฟาน ไดค์, เคอร์เกซ
• กองกลางรับ: แม็ค อัลลิสเตอร์, กราเฟนเบิร์ช
• กองกลางรุก: ซาลาห์, โซบอสซ์ไล, กัคโป
• ศูนย์หน้า: อิซัค
• ผู้จัดการทีม: อาร์เน่ สลอต

แม้จะขาด อาลีสซง แต่มีข่าวดีว่า เฟเดริโก้ เคียซ่า อาจพร้อมกลับมาลงสนาม ส่วน โจวานนี่ ลีโอนี่ ยังพักยาวต่อไป

บทสรุปก่อนเกม

การพบกันของ เชลซี และ ลิเวอร์พูล ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงศึกแย่งสามแต้ม แต่ยังเป็นเกมวัดใจด้านสภาพจิตใจและความมั่นใจ เชลซีต้องการพิสูจน์ว่าพวกเขายังสามารถกลับมาสู้ได้แม้ตัวผู้เล่นบาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่ ลิเวอร์พูล ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคว้าชัยเพื่อยึดตำแหน่งในเส้นทางลุ้นแชมป์

เกมนี้จึงถูกคาดหมายว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดและน่าติดตามตั้งแต่นาทีแรกจนสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย คำตอบว่าใครจะเป็นฝ่ายยิ้มออกระหว่าง “สิงห์บลูส์” หรือ “หงส์แดง” จะได้รู้กันในค่ำวันเสาร์นี้