
ธีโอ แอร์นานเดซ อำลาเอซี มิลาน พร้อมคำวิจารณ์รุนแรงต่อฝ่ายบริหาร
Mansion Sports - ธีโอ แอร์นานเดซ แบ็คซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส ได้ประกาศยุติการค้าแข้งกับเอซี มิลานอย่างเป็นทางการ พร้อมย้ายไปร่วมทีมอัล-ฮิลาล สโมสรดังจากซาอุดีอาระเบีย อย่างไรก็ตาม การอำลาครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความซาบซึ้งหรือคำอำลาอันอบอุ่น แต่ยังแฝงด้วยน้ำเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงต่อแนวทางการบริหารงานของสโมสร “รอสโซเนรี” ในปัจจุบัน
นักเตะวัย 26 ปี ได้แสดงความผิดหวังอย่างชัดเจนผ่านแถลงการณ์ที่โพสต์บนอินสตาแกรมส่วนตัว โดยเขาชี้ให้เห็นว่าการตัดสินใจของฝ่ายบริหารชุดปัจจุบันนั้นได้เบี่ยงเบนไปจากคุณค่าและวิสัยทัศน์ดั้งเดิมที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อปี 2019
สัญญาที่ไม่ลงตัวและการตัดสินใจอำลา
แม้ยังเหลือสัญญากับเอซี มิลานอีกหนึ่งปี แต่การเจรจาเพื่อขยายสัญญากลับล้มเหลว โดยเฉพาะเมื่อสโมสรปฏิเสธข้อเสนอเรื่องค่าเหนื่อยใหม่จากฝ่ายนักเตะอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้ธีโอ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยปฏิเสธข้อเสนอจากอัล-ฮิลาล ต้องเปลี่ยนใจตอบรับเงื่อนไขใหม่ในที่สุด
จากรายงานข่าว ธีโอจะย้ายไปอัล-ฮิลาลด้วยค่าตัวรวมโบนัสประมาณ 25 ล้านยูโร พร้อมรับค่าเหนื่อยสูงถึง 20 ล้านยูโรต่อฤดูกาล ซึ่งถือเป็นข้อเสนอที่มิลานไม่สามารถแข่งขันได้ในทางการเงิน
อำลาอย่างซาบซึ้งปนผิดหวัง
ในแถลงการณ์ยาวที่เต็มไปด้วยอารมณ์สะท้อนใจ ธีโอเปิดใจถึงการเดินทางกับเอซี มิลาน ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายมาร่วมทีม เขากล่าวถึงความฝันและความมุ่งมั่นที่มีต่อสโมสรแห่งนี้ว่า
“ผมย้ายมาอยู่กับมิลานในปี 2019 ด้วยความฝัน ความกระหาย และความตื่นเต้นในการสวมเสื้อที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์”
เขายังกล่าวถึงความทรงจำที่ดีที่สุดในช่วงเวลาร่วมกับทีม โดยเฉพาะความสำเร็จในเวทีเซเรีย อา และซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา ตลอดจนมิตรภาพกับเพื่อนร่วมทีมที่เขายกย่องว่า “น่าทึ่งอย่างยิ่ง”
ธีโอยังได้กล่าวขอบคุณอย่างลึกซึ้งต่อเพื่อนร่วมทีม โค้ชทุกคนที่เคยร่วมงาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เปาโล มัลดินี ตำนานของสโมสรผู้มีบทบาทสำคัญในการดึงเขามาร่วมทีม
“ขอบคุณจากใจสำหรับเพื่อนร่วมทีมทุกคน โค้ชที่เชื่อมั่นในตัวผมทุกท่าน และโดยเฉพาะกับเปาโล มัลดินี สำหรับความใกล้ชิด วิสัยทัศน์ และภาวะผู้นำของเขา”
ข้อความนี้สื่อถึงความผิดหวังอย่างแฝงนัย โดยเฉพาะกับวลี “โค้ชที่เชื่อมั่นในตัวผม” ซึ่งอาจตีความได้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่ให้ความไว้วางใจในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับทีม และคำกล่าวถึงมัลดินีอย่างเด่นชัด ยิ่งตอกย้ำบทบาทสำคัญของเขาในชีวิตค้าแข้งของธีโอ ซึ่งการปลดมัลดินีในปี 2023 ถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในทางลบของทิศทางสโมสร
ความผูกพันกับแฟนบอล: จากใจนักเตะถึงหัวใจสนาม
ธีโอไม่ลืมที่จะแสดงความขอบคุณต่อกองเชียร์มิลาน ที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดทั้งช่วงเวลาที่ดีและยากลำบาก
“ขอบคุณแฟน ๆ รอสโซเนรี ที่คอยสนับสนุนอย่างไม่ขาดสาย ทั้งในช่วงเวลาที่สวยงามและยากเย็น”
“การได้สัมผัสถึงพลังสนับสนุนของพวกคุณเป็นเกียรติที่ผมไม่มีวันลืม และจะคงอยู่ในหัวใจของผมตลอดไป”
คำกล่าวนี้สะท้อนถึงความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างนักเตะกับแฟนบอลมิลาน ซึ่งตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ได้ยกให้เขาเป็นหนึ่งในขวัญใจที่ซานซิโร
วิจารณ์แนวทางสโมสรอย่างเปิดเผย: สะท้อนวิสัยทัศน์ที่ไม่ตรงกัน
ช่วงท้ายของแถลงการณ์ ธีโอได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาถึงสาเหตุเบื้องหลังการตัดสินใจย้ายทีม โดยกล่าวว่า
“การตัดสินใจจากไปไม่ใช่เรื่องง่าย ผมรู้ดีว่าที่ที่ผมอยากอยู่คือที่ใด และมิลานก็เป็นลำดับแรกเสมอ แต่โชคร้ายที่ทุกสิ่งไม่สามารถขึ้นอยู่กับคนเพียงคนเดียว”
เขาเสริมด้วยข้อความที่ชัดเจนยิ่งขึ้นถึงความไม่สอดคล้องของแนวทางบริหารในปัจจุบัน
“ทิศทางที่สโมสรเลือกเดิน รวมถึงการตัดสินใจหลายเรื่องในช่วงหลัง ไม่สะท้อนถึงค่านิยมและความทะเยอทะยานที่ทำให้ผมมาที่นี่ตั้งแต่แรก นี่จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากบทหนึ่ง และเปิดฉากใหม่ที่แตกต่างแต่สำคัญไม่แพ้กัน”
แม้คำอำลานี้จะแฝงไปด้วยความขมขื่น ธีโอยังคงยืนยันว่าเขาจากไปด้วยศักดิ์ศรีและความภูมิใจในสิ่งที่เคยทุ่มเทเพื่อสโมสรแห่งนี้
“ผมจากไปด้วยหัวใจที่ภาคภูมิ เพราะผมได้มอบทุกสิ่งที่มีให้กับสโมสรแห่งนี้ ทุ่มเทเต็มที่ในทุกวัน และร่วมแบ่งปันความฝันเดียวกับแฟน ๆ”
“ผมจากไปด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามิลานจะกลับไปยังจุดที่พวกเขาควรอยู่ มิลานจะเป็นส่วนหนึ่งในตัวผมเสมอ ฟอร์ซา มิลาน ตลอดกาล”
การจากไปที่มากกว่าการย้ายทีมธรรมดา
การย้ายทีมของธีโอ แอร์นานเดซ ไม่เพียงแต่หมายถึงการสูญเสียหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่สุดของเอซี มิลานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หากแต่ยังเปิดโปงความตึงเครียดภายในและความไม่พอใจที่มีต่อแนวทางของผู้บริหารสโมสรในยุคปัจจุบัน
คำแถลงของเขาสะท้อนถึงความขัดแย้งในระดับโครงสร้าง และอาจส่งผลต่อทิศทางและความเชื่อมั่นของนักเตะรายอื่นที่ยังอยู่ภายในทีม ในขณะที่แฟนบอลก็อาจเริ่มตั้งคำถามต่อผู้นำคนใหม่ที่กำลังกุมบังเหียน ณ ซานซิโร
การอำลาครั้งนี้จึงมิใช่เพียงหน้าหนึ่งในตลาดซื้อขายนักเตะ แต่คือบทสะท้อนของการเปลี่ยนผ่านอันซับซ้อนในยุคใหม่ของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลี