Mansion Sports – สโมสร ลิเวอร์พูล (Liverpool FC) แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของทีมผู้ล่าแชมป์อย่างแท้จริง หลังบุกไปเอาชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต (Eintracht Frankfurt) ได้อย่างเด็ดขาด 5-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025/2026 นัดที่สาม ที่สนาม ดอยท์เชอ แบงค์ พาร์ค (Deutsche Bank Park)

แม้จะเสียประตูนำก่อนและต้องเผชิญแรงกดดันจากเจ้าบ้านในช่วงต้นเกม แต่ลูกทีมของ อาร์เน่ สลอต (Arne Slot) สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาอย่างยอดเยี่ยม พร้อมแสดงศักยภาพเชิงแทคติกที่เฉียบแหลมและความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่ง จนคว้าชัยชนะอย่างเหนือชั้น

ครึ่งแรก: แฟร้งค์เฟิร์ตออกนำก่อน แต่ลิเวอร์พูลกลับมาถล่มสามประตูรวด

บรรยากาศในสนามเริ่มต้นด้วยเสียงเชียร์ดังกึกก้องจากแฟนบอลเจ้าบ้านที่เข้ามาให้กำลังใจทีมอย่างหนาแน่น แฟร้งค์เฟิร์ต เปิดเกมรุกอย่างมั่นใจและได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 26 จากจังหวะสวนกลับเร็วฝั่งขวา

ราสมุส คริสเตนเซน (Rasmus Kristensen) อดีตแข้งลีดส์ ยูไนเต็ด ซัดบอลเรียดลอดขา แอนดี โรเบิร์ตสัน (Andy Robertson) พุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลไม่เสียขวัญ และเพียงเก้านาทีต่อมา ฮูโก เอกิติเก้ (Hugo Ekitiké) อดีตกองหน้าของแฟร้งค์เฟิร์ต ก็สร้างความเจ็บปวดให้ทีมเก่าด้วยการทำประตูตีเสมอจากการจ่ายยาวของโรเบิร์ตสัน ก่อนจะยิงผ่านมือ ไมเคิล เซ็ตเตอร์เรอร์ (Michael Zetterer) เข้าไปอย่างเยือกเย็น

เจ้าตัวเลือกที่จะไม่แสดงอาการดีใจเพื่อให้เกียรติกับอดีตต้นสังกัด

หลังจากนั้น โมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไปอยู่ในมือของลิเวอร์พูลทันที นาทีที่ 35 เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (Virgil van Dijk) โขกประตูให้ทีมเยือนแซงนำ 2-1 จากลูกเตะมุมของ โคดี กัคโป (Cody Gakpo)
ก่อนหมดครึ่งแรกเพียงสามนาที ความผิดพลาดของแนวรับแฟร้งค์เฟิร์ตถูกลงโทษอีกครั้ง เมื่อ อิบราฮิมา โกนาเต้ (Ibrahima Konaté) เติมขึ้นมายิงจ่อ ๆ ในกรอบเขตโทษ ส่งผลให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 3-1 ก่อนเข้าสู่ช่วงพักครึ่ง

ครึ่งหลัง: หงส์แดงคุมเกมทั้งสนาม และปิดบัญชีด้วยสองประตูเพิ่ม

ครึ่งหลังเริ่มต้นด้วยการครองเกมแบบเบ็ดเสร็จของลิเวอร์พูล การประสานงานระหว่าง โดมินิค โซบอสไล (Dominik Szoboszlai) และ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (Florian Wirtz) ทำให้แดนกลางของแฟร้งค์เฟิร์ตต้องรับมืออย่างหนักกับการบุกต่อเนื่องของทีมเยือน

ในนาทีที่ 66 ลิเวอร์พูลขยับหนีเป็น 4-1 จากจังหวะที่เวิร์ตซ์จ่ายบอลทะลุช่องอย่างแม่นยำให้กัคโปยิงโล่ง ๆ เข้าประตู ถือเป็นแอสซิสต์แรกของเวิร์ตซ์ในเวทียุโรปหลังย้ายมาร่วมทีมเมื่อต้นฤดูกาล

เพียงสี่นาทีให้หลัง โซบอสไลก็จัดการซัดประตูสุดสวยจากระยะไกล บอลพุ่งแรงเสียบมุมล่างอย่างหมดจด ทำให้สกอร์ขยับเป็น 5-1 และตอกย้ำความเหนือชั้นของ “หงส์แดง” อย่างแท้จริง

ตลอดเวลาที่เหลือของการแข่งขัน แฟร้งค์เฟิร์ตแทบไม่สามารถสร้างจังหวะอันตรายได้เลย ขณะที่ลิเวอร์พูลยังคงรักษาความเข้มข้นของเกมและควบคุมจังหวะได้ทั้งหมดจนสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย

สถิติการแข่งขัน ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต พบ ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูลส่งสัญญาณเตือนคู่แข่งในยุโรป

ชัยชนะ 5-1 นัดนี้ไม่เพียงแต่หยุดสถิติพ่ายแพ้ติดต่อกัน 4 นัดของลิเวอร์พูลในทุกรายการเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงพลังของทีมภายใต้การนำของ อาร์เน่ สลอต ที่เต็มไปด้วยความยืดหยุ่นและความลึกของขุมกำลัง

การกลับมาของฟอร์มเฉียบคมจากแนวรุก รวมถึงความแข็งแกร่งของแนวรับและแดนกลาง ทำให้ลิเวอร์พูลส่งสัญญาณชัดเจนไปยังคู่แข่งทั่วทวีปว่าพวกเขาพร้อมแล้วที่จะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ยุโรปอีกครั้งในฤดูกาลนี้.