Mansion Sports – ดาร์บี้ลอนดอนกลับมาอีกครั้งในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/2026 โดยในสัปดาห์นี้ อาร์เซนอล เตรียมเปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม เพื่อต้อนรับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2025 เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

สำหรับ อาร์เซนอล นี่คือโอกาสสำคัญในการก้าวขึ้นไปสู่จ่าฝูงชั่วคราว หากสามารถเก็บสามคะแนนได้สำเร็จ เนื่องจาก ลิเวอร์พูล ที่อยู่เหนือพวกเขามีโปรแกรมหนักต้องพบ เชลซี ขณะเดียวกัน เวสต์แฮม เดินทางมาพร้อมพลังใหม่ภายใต้การนำของ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต แม้ผลงานโดยรวมยังไม่สู้ดีนัก

อาร์เซนอล: ความมั่นใจและความสม่ำเสมอ

อาร์เซนอลกำลังอยู่ในช่วงที่ทีมเริ่มกลับมาแสดงศักยภาพได้อย่างต่อเนื่อง ชัยชนะสุดดราม่าเหนือ นิวคาสเซิล 2-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่ง กาเบรียล มากัลเญส โหม่งประตูชัยในนาที 96 ไม่เพียงสร้างขวัญกำลังใจให้ทีม แต่ยังเป็นการลบล้างสถิติอันย่ำแย่ที่สนามเซนต์เจมส์พาร์กอีกด้วย

โมเมนตัมเชิงบวกยังต่อยอดในเวทีแชมเปียนส์ลีก เมื่อพวกเขาเอาชนะ โอลิมเปียกอส 2-0 ทำให้คว้าชัยสามนัดติดต่อกันรวมทุกรายการ แสดงให้เห็นว่า มิเกล อาร์เตต้า เริ่มค้นพบสมดุลที่ต้องการในทีม อย่างไรก็ตาม เอมิเรตส์ สเตเดียม แม้เป็นฐานที่มั่นแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่การันตีชัยชนะเสมอไป เพราะจาก 42 เกมลีกในบ้าน พวกเขาแพ้เพียงสี่นัด แต่สองครั้งนั้นเกิดขึ้นกับ เวสต์แฮม

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด: พลังใหม่กับสถิติที่ต้องพิชิต

เวสต์แฮมเดินทางมาพร้อมความหวังใหม่หลังได้กุนซือ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต คุมทีม ผลงานเปิดตัวถือว่าดีไม่น้อย หลังเสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 โดยมี จาร์ร็อด โบเว่น เป็นผู้ช่วยให้ทีมรอดพ้นความพ่ายแพ้

อย่างไรก็ดี ภาพรวมผลงานยังไม่สวยหรู เมื่อพวกเขาพ่ายไปถึงห้านัดจากหกเกมหลังสุดในทุกรายการ สถิติในการลงเล่นดาร์บี้ลอนดอนก็ไม่น่าประทับใจนัก โดยแพ้ไปแล้ว 134 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ถึงกระนั้น ขุนค้อนยังมีจุดแข็งที่สามารถใช้เป็นแรงผลักดันได้ เพราะพวกเขาเอาชนะได้ในสองครั้งหลังที่บุกมาเยือนเอมิเรตส์ และไม่เสียประตูเลย หากสามารถเก็บชัยได้อีก จะกลายเป็นทีมที่สามต่อจาก แมนเชสเตอร์ซิตี้ ที่สามารถชนะอาร์เซนอลสามครั้งติดในบ้านได้

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

การพบกันครั้งนี้นอกจากความดุเดือดในสนามแล้ว ยังน่าสนใจในเชิงแท็กติก เพราะทั้งสองกุนซือมีแนวทางการทำทีมที่แตกต่างกัน

อาร์เซนอล (4-3-3)

• ผู้รักษาประตู: รายา
• กองหลัง: ทิมเบอร์, ซาลิบา, กาเบรียล, คาลาฟิออรี
• กองกลาง: โอเดการ์ด, ซูบีเมนดี, ไรซ์
• กองหน้า: ซาก้า, กโยเคเรส, เอเซ
• ผู้จัดการทีม: มิเกล อาร์เตต้า

ความพร้อมของ กาเบรียล มากัลเญส ยังต้องรอการยืนยัน หลังมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์, นอนี มาดูเอเก และ กาเบรียล เฆซุส ยังคงพักรักษาตัวจนถึงสิ้นปี ด้าน ปิเอโร ฮินคาปี ยังไม่ฟิตเต็มร้อย แต่ข่าวดีคือ บูคาโย ซาก้า พร้อมลงเล่นนัดที่ 200 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งจะเป็นการก้าวเข้าสู่ทำเนียบตำนานร่วมกับ เธียร์รี อองรี

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (4-1-4-1)

• ผู้รักษาประตู: อาเรโอลา
• กองหลัง: วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, มาฟโรปานอส, คิลแมน, ดิยอฟ
• กองกลางรับ: มากัสซา
• กองกลางรุก: โบเว่น, แฟร์นันเดส, ปาเกต้า, ซัมเมอร์วิลล์
• กองหน้า: ฟูลครุก
• ผู้จัดการทีม: นูโน่ เอสปิริโต ซานโต

เวสต์แฮมหมดสิทธิ์ใช้งาน โตมัส ซูเช็ก ที่ติดโทษแบน รวมถึงยังต้องลุ้นความฟิตของ อารอน วาน-บิสซาก้า อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีนักเตะสำคัญอย่าง จาร์ร็อด โบเว่น ที่มักสร้างปัญหาได้เสมอเมื่อต้องดวลกับอาร์เซนอล

บทสรุปก่อนการแข่งขัน

ศึกครั้งนี้ไม่ใช่เพียงดาร์บี้ลอนดอนธรรมดา แต่อาร์เซนอลต้องการชัยชนะเพื่อกดดัน ลิเวอร์พูล บนหัวตาราง ส่วน เวสต์แฮม มุ่งมั่นที่จะลบผลงานอันย่ำแย่ของตนเอง พร้อมใช้สถิติที่ดีในเอมิเรตส์เป็นแรงผลักดัน

ด้วยรายชื่อนักเตะและกลยุทธ์ที่ต่างฝ่ายต่างมีจุดแข็งและจุดอ่อน ทำให้เกมนี้มีโอกาสสูงที่จะเต็มไปด้วยความเข้มข้นและดราม่า แฟนบอลจึงเฝ้ารอคำตอบว่า อาร์เซนอลจะรักษาฟอร์มร้อนแรงได้ต่อ หรือเวสต์แฮมจะกลายเป็นฝันร้ายซ้ำเดิมของเจ้าถิ่นอีกครั้ง