Mansion Sports – ศึกฟุตบอลรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 โซนยุโรป กลุ่ม I กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญ โดยทีมชาติอิตาลีเตรียมเปิดสนามสตาดิโอ ฟริอูลี (บลูเอ็นเนอร์จี สเตเดียม) เมืองอูดิเนเซ ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติอิสราเอลในวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2025 เวลา 20.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น

การแข่งขันครั้งนี้เป็นหนึ่งในแมตช์ชี้ชะตาสำคัญ ทั้งสองทีมต่างมีเป้าหมายชัดเจน อิตาลีมุ่งคว้าชัยเพื่อบีบแต้มไล่จี้นอร์เวย์ซึ่งนำเป็นจ่าฝูง ส่วนอิสราเอลจำเป็นต้องคว้าสามแต้มเพื่อรักษาความหวังในการลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ

สภาพความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนการแข่งขัน

ทีมชาติอิตาลี

ทัพ “อัซซูร์รี” กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม หลังจากเริ่มต้นรอบคัดเลือกด้วยความพ่ายแพ้ พวกเขาก็กลับมาคว้าชัยได้ถึง 4 นัดติดต่อกัน หากคว้าชัยเหนืออิสราเอลในเกมนี้ อิตาลีจะลดช่องว่างกับนอร์เวย์เหลือเพียง 3 คะแนน

ทั้งนี้ การพบกันล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นเกมที่ดุเดือดและเต็มไปด้วยประตู อิตาลีเป็นฝ่ายเฉือนชนะไป 5–4 โดยประตูชัยของ ซานโดร โตนาลี ในช่วงท้ายเกมช่วยให้ทีมรักษาสามแต้มสำคัญไว้ได้

สิ่งที่น่าจับตาคือแนวรุกของอิตาลีที่มีความสดใหม่จากการผสมผสานของผู้เล่นรุ่นพี่และนักเตะดาวรุ่ง โดยเฉพาะ ฟรานเชสโก้ ปิโอ เอสโปซิโต้ ที่เพิ่งทำประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ ความลงตัวของทีมภายใต้การนำของ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ กำลังถูกทดสอบอีกครั้งในแมตช์นี้

อย่างไรก็ตาม ความกดดันก็สูงเช่นกัน หลังจากพลาดการผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกถึง 2 ครั้งติดต่อกัน แฟนบอลอิตาลีเรียกร้องผลการแข่งขันที่เป็นรูปธรรมมากกว่าการเล่นที่น่าประทับใจ

ทีมชาติอิสราเอล

ฝั่งอิสราเอลต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก หลังจากแพ้ นอร์เวย์ 0–5 ในนัดล่าสุด ทำให้พวกเขาหล่นห่างจากอิตาลีถึง 3 คะแนน ทั้งที่ลงเล่นมากกว่า 1 นัด อีกทั้งผลต่างประตูก็เป็นรองอย่างมาก

สถิติการพบกันระหว่างสองทีมก็ไม่เป็นใจต่ออิสราเอล โดยจากการพบกัน 8 ครั้ง พวกเขาไม่สามารถเอาชนะอิตาลีได้เลย และมีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่จบด้วยผลเสมอ 0–0 เมื่อปี 1970 ซึ่งถือเป็นสัญญาณเตือนถึงความยากของเกมนี้

แม้จะตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด แต่อิสราเอลยังคงพร้อมต่อสู้เต็มที่ พวกเขาน่าจะใช้แผนการเล่นเชิงรุกมากขึ้น เพื่อพยายามสร้างความประหลาดใจให้เจ้าบ้าน แม้จะต้องเผชิญแนวรับและแนวรุกที่ทรงพลังของอิตาลี

ตารางคะแนนกลุ่ม I ก่อนการแข่งขัน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

อิตาลี (4-4-2)

อิตาลีจะไม่มี มอยเซ่ คีน เนื่องจากบาดเจ็บที่ข้อเท้า และไม่มี อเลสซานโดร บาสโตนี่ เพราะติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง ส่งผลให้ จานลูก้า มันชินี มีโอกาสออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ขณะเดียวกัน การบาดเจ็บของ จานลูก้า สคามักกา, มัตเตโอ โปลิตาโน และ มัตเตีย ซัคคาญี่ เปิดโอกาสให้ จาโคโม ราสปาโดรี และ ริคคาร์โด ออร์โซลินี ได้ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกม

อิสราเอล (4-2-3-1)

อิสราเอลขาดผู้เล่นคนสำคัญอย่าง ดอร์ เปเรตซ์ ผู้ทำประตูสำคัญในเกมแรกที่พบกัน ทำให้แผนการบุกต้องปรับเปลี่ยน โดยมีความเป็นไปได้ที่ ไท บาริโบ หรือ ดอร์ เทอร์เกมัน จะได้รับโอกาสออกสตาร์ต ส่วน มานอร์ โซโลมอน และ ออสการ์ กลูค จะเป็นแกนหลักในเกมรุกเช่นเคย

บทส่งท้าย

ศึกระหว่างอิตาลีและอิสราเอลครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการแย่งชิงสามคะแนนเท่านั้น แต่ยังเป็นแมตช์ที่สามารถกำหนดทิศทางของกลุ่ม I ได้อย่างมีนัยสำคัญ อิตาลีตั้งเป้ากดดันนอร์เวย์ต่อเนื่อง ขณะที่อิสราเอลต้องการยื้อความหวังเข้าสู่เพลย์ออฟ

ด้วยศักยภาพแนวรุกที่ร้อนแรงของอิตาลี และความมุ่งมั่นของอิสราเอลในการสร้างเซอร์ไพรส์ เกมที่อูดิเนเซ่จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ตื่นเต้น เร้าใจ และอาจมีประตูเกิดขึ้นมากมาย แฟนบอลไม่ควรพลาดแมตช์นี้เป็นอันขาด!