Mansion Sports – ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025/2026 กลับมาสร้างความตื่นเต้นอีกครั้งในสัปดาห์ที่ 10 ด้วยเกมที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย ระหว่าง นอตติงแฮม ฟอเรสต์ พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม ซิตี้ กราวด์ รังเหย้าของทีมเจ้าป่า เกมนี้จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2025 เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

แมตช์นี้ถือเป็นหนึ่งในเกมที่น่าจับตาที่สุดของสุดสัปดาห์ ฟอเรสต์ต้องการลุกขึ้นจากผลงานย่ำแย่ในลีก ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังมาแรงและต้องการเดินหน้าคว้าชัยเพื่อไต่อันดับในตารางคะแนน เมื่อทั้งสองทีมต่างมีภารกิจสำคัญ เกมนี้จึงคาดว่าจะเต็มไปด้วยความเข้มข้นและดราม่าตลอด 90 นาที

ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น มาดูการวิเคราะห์จาก Mansion Sports เกี่ยวกับความพร้อมและรายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในเกม นอตติงแฮม ฟอเรสต์ vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2025 กัน

สภาพความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนเกม

นอตติงแฮม ฟอเรสต์

นอตติงแฮม ฟอเรสต์ ยังคงเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากในพรีเมียร์ลีก แต่สัญญาณเชิงบวกเริ่มปรากฏให้เห็นนับตั้งแต่การเข้ามาคุมทีมของ ฌอน ไดช์ ชัยชนะ 2-0 เหนือปอร์โต้ในศึกยูโรปาลีกเป็นเหมือนประกายความหวังที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ทีมและแฟนบอล

อย่างไรก็ตาม เส้นทางในลีกยังไม่เป็นไปตามที่คาด ฟอเรสต์เพิ่งแพ้ บอร์นมัธ 0-2 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ทีมแพ้ถึงหกจากเจ็ดนัดหลังสุด และไม่สามารถยิงประตูได้เลยในสี่เกมติดต่อกัน สถานการณ์นี้ทำให้พวกเขายังคงติดอยู่ในโซนตกชั้น และไดช์จำเป็นต้องหาทางแก้ไขปัญหาการทำประตูโดยด่วน

จุดอ่อนใหญ่ของฟอเรสต์คือความเฉียบคมในแนวรุก จาก 14 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ทีมไม่สามารถยิงประตูได้ถึง 10 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดในบรรดาผู้จัดการทีมที่คุมครบ 150 นัดขึ้นไปในประวัติศาสตร์ลีกนี้

อย่างไรก็ตาม ฟอเรสต์มีสถิติการเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่น่าจับตา พวกเขาชนะ “ปีศาจแดง” ได้สามนัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก พร้อมยิงได้ถึงหกลูก หากสามารถเก็บชัยอีกครั้งได้ในเกมนี้ จะเป็นครั้งแรกในรอบกว่าร้อยปีที่ฟอเรสต์สามารถชนะยูไนเต็ดได้สี่ครั้งติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นภารกิจที่ทีมและแฟนบอลในซิตี้ กราวด์ตั้งตารออย่างยิ่ง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ด้านทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินทางมาพร้อมความมั่นใจเต็มเปี่ยม ความพ่ายแพ้ต่อฟอเรสต์เมื่อฤดูกาลก่อนยังคงอยู่ในความทรงจำ และในเกมนี้พวกเขาตั้งเป้าที่จะล้างแค้นพร้อมต่อยอดฟอร์มร้อนแรงภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อาโมริม

ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผลงานของยูไนเต็ดดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเป็นทีมที่เก็บแต้มได้มากที่สุดรองจากอาร์เซน่อลในช่วงเวลาดังกล่าว โดยยิงไปแล้ว 14 ประตู ส่วนใหญ่เกิดจากความเฉียบคมของ มาเธอุส คูญญา และ ไบรอัน เอ็มเบวโม่

ชัยชนะ 4-2 เหนือไบรท์ตันในเกมล่าสุดช่วยยืดสถิติชนะรวดของทีมเป็นสามนัดติดต่อกัน แม้ฟอร์มเกมเยือนยังต้องปรับปรุง แต่ความมั่นใจของทีมในตอนนี้ถือว่าสูงมาก อาโมริมสามารถสร้างสมดุลระหว่างเกมรับที่เหนียวแน่นและเกมรุกที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ยูไนเต็ดขยับขึ้นสู่อันดับหกของตารางคะแนน

หากสามารถคว้าชัยชนะเหนือฟอเรสต์ได้ และผลของคู่แข่งเป็นใจ ยูไนเต็ดมีโอกาสไต่อันดับขึ้นไปถึงตำแหน่งรองจ่าฝูง ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญในการเดินหน้าทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีก

รายชื่อผู้เล่นนอตติงแฮม ฟอเรสต์ vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2025

นอตติงแฮม ฟอเรสต์ (ระบบ 4-2-3-1)

นอตติงแฮม ฟอเรสต์ ยังไม่มีชื่อของ โอลา ไอน่า และ ดิลาน บาโกวา ที่บาดเจ็บ ขณะที่ คริส วู้ด และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ต้องรอทดสอบความฟิตก่อนลงสนาม ส่วน เจมส์ แมคอาที ที่พลาดลงเล่นในเกมก่อนด้วยเหตุผลทางแท็กติก มีโอกาสกลับมาอยู่ในทีมอีกครั้ง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ระบบ 3-4-2-1)

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ คาดว่าจะฟิตทันกลับมาช่วยแนวรับอีกครั้งหลังหายจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังคงพักรักษาตัว อาโมริมมีแนวโน้มจะยึดระบบกองหลังสามคน โดยใช้ เดอ ลิกต์ และ ลุค ชอว์ ยืนเคียงข้างแม็กไกวร์ ส่วนแนวรุกยังคงฝากความหวังไว้กับสามประสาน มาเธอุส คูญญา, ไบรอัน เอ็มเบวโม่, และ เบนจามิน เซสโก้ ที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงหลัง

บทสรุปก่อนเกม

เกมที่สนาม ซิตี้ กราวด์ ระหว่าง นอตติงแฮม ฟอเรสต์ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีก 2025/2026 สัปดาห์ที่ 10 ถูกคาดหมายว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด ทั้งจากประวัติศาสตร์การพบกันของสองสโมสรและสถานการณ์ปัจจุบันที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ฟอเรสต์กำลังดิ้นรนหนีโซนตกชั้น ขณะที่ยูไนเต็ดอยู่ในช่วงฟอร์มแรงและมุ่งมั่นจะรักษาโมเมนตัมชัยชนะต่อเนื่อง

เกมนี้จึงเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกตั้งตารอ เพราะนอกจากจะสะท้อนศักดิ์ศรีของสองสโมสรเก่าแก่แล้ว ยังอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเส้นทางในฤดูกาลสำหรับทั้งคู่ โดยรายชื่อผู้เล่น นอตติงแฮม ฟอเรสต์ vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2025 ที่เปิดเผยออกมานี้ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมเต็มที่ของทั้งสองทีมในการมอบศึกสุดมันให้แฟนบอลทั่วโลกได้ชมกันอย่างแน่นอน