Mansion Sports – การแข่งขันที่ทั่วทั้งเอเชียให้ความสนใจเป็นพิเศษกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อทีมชาติอินโดนีเซียต้องเผชิญหน้ากับทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย ปี 2026 ซึ่งจะจัดขึ้นที่สนามคิง อับดุลลอฮ์ สปอร์ต ซิตี โดยมีกำหนดเริ่มแข่งขันในวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2025 เวลา 20.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น

แมตช์นี้ไม่ใช่เพียงเกมธรรมดา แต่เป็นศึกสำคัญที่ทั้งสองทีมต่างมุ่งมั่นคว้าชัยชนะเพื่อยึดตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม และเป็นบันไดสู่รอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลกที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก การแข่งขันในรอบนี้ยังเป็นเวทีสำคัญที่ทั้งอินโดนีเซียและซาอุดีอาระเบีย รวมถึงอิรัก จะขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นเพื่อชิงสิทธิ์ผ่านเข้ารอบอัตโนมัติ

ความพร้อมของทีมชาติอินโดนีเซียก่อนการแข่งขัน

อินโดนีเซียสามารถผ่านเข้าสู่รอบนี้ได้จากการจบอันดับที่สี่ของกลุ่ม C ด้วยผลงานสามชัยชนะ สามเสมอ และสี่ความพ่ายแพ้ รวมเป็น 12 คะแนน แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยตามหลังออสเตรเลียถึง 7 คะแนน แต่ฟอร์มการเล่นภายใต้การคุมทีมของแพทริก ไคลเวิร์ต ก็พัฒนาอย่างเห็นได้ชัด

ทีมชาติอินโดนีเซียต้องลงสนามสองนัดสำคัญภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน โดยจะพบซาอุดีอาระเบียในวันที่ 9 ตุลาคม และอิรักในวันที่ 11 ตุลาคม สองแมตช์นี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ หากพวกเขาสามารถคว้าชัยและเข้าใกล้การสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากสร้างประวัติศาสตร์เอาชนะซาอุดีอาระเบียได้เป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2024 ด้วยสกอร์ 2-0 ก่อนหน้านั้นจาก 14 การพบกัน อินโดนีเซียเสมอเพียง 3 ครั้ง และแพ้ถึง 11 ครั้ง แต่ในสองนัดล่าสุด พวกเขายังไม่แพ้ “กรีน ฟอลคอนส์” เลย ความสำเร็จนี้จึงกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ลูกทีมของไคลเวิร์ตลงสนามด้วยความมุ่งมั่นสูงสุด

ความพร้อมของทีมชาติซาอุดีอาระเบีย

ซาอุดีอาระเบียถือเป็นหนึ่งในทีมระดับแถวหน้าของเอเชียที่มีประสบการณ์โชกโชนบนเวทีโลก พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกมาแล้วสองครั้งติดต่อกัน (2018 และ 2022) แม้จะต้องจอดป้ายในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ประวัติศาสตร์ของทีมยังคงสะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความเป็นทีมใหญ่

ซาอุดีอาระเบียเคยสร้างผลงานระดับตำนานด้วยการทะลุถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในปี 1994 ภายใต้การคุมทีมของแอร์เว่ เรอนาร์ พวกเขาจบอันดับสามของกลุ่มในรอบคัดเลือกรอบก่อน หลังสะดุดเสมอมากเกินไปถึง 4 นัดจาก 10 นัด และทำให้พลาดตั๋วอัตโนมัติ ตอนนี้ “กรีน ฟอลคอนส์” ต้องกลับมาแย่งชิงพื้นที่หัวตารางอีกครั้ง

แม้จะมีดีกรีเหนือกว่าอินโดนีเซียในหลายด้าน แต่สองผลการแข่งขันหลังสุดคือสัญญาณเตือนว่าพวกเขาไม่สามารถประมาทคู่แข่งรายนี้ได้อีกต่อไป

รายชื่อผู้เล่นอินโดนีเซีย ปะทะ ซาอุดีอาระเบีย สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

รายชื่อผู้เล่นและแท็กติกของทีมชาติอินโดนีเซีย

อินโดนีเซียจะใช้ระบบการเล่น 3-4-3 และมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญบางจุด โดย โอเล โรเมนี ศูนย์หน้าฟอร์มแรงจะพลาดลงสนามจากอาการบาดเจ็บที่เท้า ทำให้ รอมาดาน ซานันตา มีโอกาสลงเป็นตัวจริงแทน

เอกี้ เมาลานา วิกรี ดาวยิงที่ทำประตูให้ทีมชาติไปแล้ว 9 ลูก คาดว่าจะได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามตั้งแต่นาทีแรกเพื่อยกระดับเกมรุก แนวรับจะนำโดย เจย์ อิดเซส ปราการหลังกัปตันทีมที่ค้าแข้งอยู่ในอิตาลี พร้อมด้วย จัสติน ฮับเนอร์ และ ริซกี ริโด

บริเวณริมเส้นจะใช้ ยาคอบ ซายูรี และ คัลวิน แฟร์ดองค์ จากสโมสรในฝรั่งเศส เพื่อสร้างความอันตรายจากด้านข้าง ส่วนมิดฟิลด์จะเป็นหน้าที่ของ มาร์ค คลอค และ เพลูเปสซี ที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมจังหวะเกมและเชื่อมระหว่างแนวรับและแนวรุก

รายชื่อผู้เล่นทีมชาติอินโดนีเซีย:

• ผู้รักษาประตู: อาร์กาวินาตา
• กองหลัง: ริโด, อิดเซส, ฮับเนอร์
• กองกลาง: ซายูรี, เฮย์, เพลูเปสซี, แฟร์ดองค์
• กองหน้า: วิกรี, ซานันตา, คัมบูยา
• หัวหน้าผู้ฝึกสอน: แพทริก ไคลเวิร์ต

รายชื่อผู้เล่นและแท็กติกของทีมชาติซาอุดีอาระเบีย

ซาอุดีอาระเบียจะลงสนามด้วยระบบ 4-4-2 และยังคงใช้ผู้เล่นแกนหลักเช่นเดิม โดยมี ซาเล็ม อัล-ดาวซารี ดาวยิงที่ทำประตูให้ทีมชาติไปแล้ว 25 ลูก เป็นแกนหลักในแนวรุก

แดนหน้าจะเป็นการจับคู่ของ ฟิราส อัล-บูไรกัน และ ซาเลห์ อัล-เชห์รี สองหัวหอกความหวังของทีม ส่วนตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็น นาวาฟ อัล-อากิดี จากสโมสรอัล-นัสร์ ขณะที่แนวรับนำโดย ฮัสซัน อัล-ตัมบักติ, อาลี อัล-บูไลฮี และ ซุลตาน อัล-ฆันนาม

รายชื่อผู้เล่นทีมชาติซาอุดีอาระเบีย:

• ผู้รักษาประตู: อัล-อากิดี
• กองหลัง: อัล-อัมรี, บูชาล, อัล-ตัมบักติ, อัล-ฮาร์บี
• กองกลาง: อัล-ดาวซารี, คันโน, อัล-ฮัสซัน, อาลี
• กองหน้า: อัล-เชห์รี, อัล-บูไรกัน
• หัวหน้าผู้ฝึกสอน: แอร์เว่ เรอนาร์

ศึกชี้ชะตาที่ทั้งสองทีมไม่อาจพลาด

การพบกันระหว่างอินโดนีเซียและซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้เป็นเกมที่มีความหมายเกินกว่าคะแนนสามแต้ม สำหรับอินโดนีเซีย นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หากสามารถเก็บชัยชนะได้อีกครั้ง พวกเขาจะเข้าใกล้การสร้างตำนานไปอีกขั้น

สำหรับซาอุดีอาระเบีย นี่คือบทพิสูจน์ศักดิ์ศรีในฐานะทีมระดับแนวหน้าของเอเชีย พวกเขาไม่อาจพลาดได้หากต้องการรักษาเส้นทางสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

ด้วยรายชื่อผู้เล่นที่เปี่ยมประสบการณ์ผสมกับพลังของดาวรุ่งจากทั้งสองทีม ทำให้เกมนี้ถูกคาดหมายว่าจะเต็มไปด้วยความเข้มข้นตั้งแต่นาทีแรก ความแตกต่างของสไตล์การเล่นระหว่างสองกุนซืออาจเป็นปัจจัยตัดสินผลการแข่งขัน และไม่ว่าจะจบลงด้วยผลลัพธ์เช่นใด ศึกครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของฟุตบอลเอเชียอย่างแน่นอน