Mansion Sports – การแข่งขันที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและดราม่ากำลังจะเกิดขึ้นกลางสัปดาห์นี้ เมื่อเชลซีเตรียมเปิดสนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ต้อนรับการมาเยือนของเบนฟิก้า ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025/2026 รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สอง โดยเกมนี้จะฟาดแข้งกันในวันอังคารที่ 30 กันยายน 2025 เวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น 

นอกจากจะเป็นการแย่งแต้มสำคัญเพื่อเป้าหมายแรกของทั้งสองทีมแล้ว เกมนี้ยังมีเรื่องราวทางอารมณ์ให้จับตามอง เมื่อโชเซ มูรินโญ อดีตกุนซือผู้พาเชลซีคว้า 8 แชมป์ และเป็นที่รู้จักกันในนาม “เดอะ สเปเชียล วัน” กลับคืนสู่เดอะบริดจ์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ในฐานะกุนซือของเบนฟิก้า

เชลซี: แบกรับแรงกดดันและฝากความหวังไว้ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์

เชลซีลงเล่นเกมนี้ท่ามกลางความกดดันมหาศาล หลังจากนัดเปิดสนามแชมเปียนส์ลีกพ่ายบาเยิร์น มิวนิค 1-3 ที่อัลลิอันซ์ อารีนา แม้โคล พาลเมอร์จะยิงประตูออกนำให้ทีม แต่สองประตูของแฮร์รี เคน บวกกับการทำเข้าประตูตัวเองของเทรโวห์ ชาโลบาห์ ทำให้เส้นทางเริ่มต้นสะดุดทันที ขณะที่ในพรีเมียร์ลีกฟอร์มก็ยังไม่กระเตื้อง ล่าสุดแพ้ไบรท์ตันด้วยสกอร์ 1-3 อีกครั้ง โดยชาโลบาห์ตกเป็นเป้าโจมตีเพราะใบแดงที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกม

สามความพ่ายแพ้จากสี่นัดหลังสุดยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้เอ็นโซ มาเรสกาและลูกทีม ทว่า สแตมฟอร์ดบริดจ์ยังคงเป็นที่พึ่งสำคัญ ด้วยบรรยากาศในบ้านที่ไม่เคยทำให้เชลซีแพ้ในรอบแบ่งกลุ่มของแชมเปียนส์ลีกตั้งแต่ปี 2019 เสียงเชียร์จากแฟนบอลอาจช่วยปลุกขวัญกำลังใจ แม้ว่าปัญหาอาการบาดเจ็บทำให้ทางเลือกของทีมค่อนข้างจำกัดก็ตาม

เบนฟิก้า: มูรินโญพาทีมพร้อมจิตวิญญาณใหม่

เบนฟิก้าเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ง่าย พวกเขาเปิดหัวรอบแบ่งกลุ่มด้วยความพ่ายแพ้พลิกล็อก 2-3 ต่อการาบัก ทั้งที่เคยนำก่อนถึงสองประตู ความพ่ายแพ้ดังกล่าวนำไปสู่การแยกทางกับบรูโน ลาเช และเปิดทางให้โชเซ มูรินโญเข้ามารับหน้าที่กุนซือ

ภายใต้การคุมทีมของมูรินโญ เบนฟิก้าลงเล่นในลีกไปสามนัด ชนะสอง เสมอหนึ่ง รวมถึงชัยชนะสำคัญ 2-1 เหนือกิล วิเซนเต แต่ในเวทียุโรป สถิติพบกับสโมสรอังกฤษยังเป็นจุดอ่อน พวกเขาไม่ชนะเลยตลอดเจ็ดนัดหลังสุดที่เจอกับทีมจากพรีเมียร์ลีก และแพ้เชลซีมาแล้วสามครั้ง รวมถึงในนัดชิงยูโรปาลีกปี 2013

ความหวังในแนวรุกของเบนฟิก้าตกอยู่ที่วังเกลิส พาฟลิดิส ดาวยิงที่ซัดไปแล้ว 7 ประตูในฤดูกาลนี้ รวมถึงสองลูกในเกมล่าสุดกับกิล วิเซนเต ส่วนเอนโซ บาร์เรเนเชอากลับมาจากโทษแบน ทำให้แดนกลางมีพลังเสริมที่สำคัญ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี (4-2-3-1)

• ผู้รักษาประตู: โรเบิร์ต ซานเชซ
• กองหลัง: มาโล กุสโต, เทรโวห์ ชาโลบาห์, เบอนัวต์ บาดิอาชิล, มาร์ก กูกูเรยา
• กองกลางตัวรับ: เอ็นโซ เฟร์นานเดซ, โรเมโอ ลาเวีย
• กองกลางตัวรุก: เอสเตวาโอ, ฟากุนโด บัวนานอตเต, อเลฮานโดร การ์นาโช
• กองหน้า: เปโดร
• กนซือ: เอ็นโซ มาเรสกา

เชลซีเผชิญวิกฤตผู้เล่นบาดเจ็บอย่างหนัก ตัวหลักหลายรายไม่สามารถลงสนามได้ อาทิ โคล พาลเมอร์, เลวี โควิลล์, เลียม เดลาป, ดาริโอ เอสซูโก, โตซิน อดาราบิโอยอ และเวสลีย์ โฟฟานา ขณะที่มีคายโล มูดริกโดนโทษแบนจากกรณีสารกระตุ้น อย่างไรก็ตาม การกลับมาของชาโลบาห์ที่โทษแบนมีผลเฉพาะในพรีเมียร์ลีก รวมถึงตัวเลือกหมุนเวียนอย่างบาดิอาชิลและกุสโต น่าจะช่วยให้ทีมรักษาสมดุลได้บ้าง

เบนฟิก้า (4-2-3-1)

• ผู้รักษาประตู: อนาโตลี ทรูบิน
• กองหลัง: ยูซุฟ เดดิช, นิโกลัส โอตาเมนดี, อันโตนิโอ ซิลวา, แคสเปอร์ ดาห์ล
• กองกลางตัวรับ: เอนโซ บาร์เรเนเชอา, เชา ริออส
• กองกลางตัวรุก: โดดี ลูเกบากิโอ, เกออร์กีย์ ซูดาคอฟ, อันเดรียส เชลเยรูป
• กองหน้า: วังเกลิส พาฟลิดิส
• กุนซือ: โชเซ มูรินโญ

เบนฟิก้าก็ไม่สมบูรณ์เช่นกัน โดย มานู ซิลวา และอเล็กซานเดอร์ บาห์ ยังเจ็บเข่า ขณะที่บรูมาเจ็บยาวไปถึงปี 2026 ส่วนจานลูกา เพรสเตียนนีไม่สามารถลงสนามเพราะติดภารกิจทีมชาติอาร์เจนตินา U-20 ถึงอย่างนั้น มูรินโญก็ยังพอใจที่พาฟลิดิสอยู่ในฟอร์มร้อนแรง และบาร์เรเนเชอาพร้อมคืนสนามเพื่อช่วยทีมอีกครั้ง

บทสรุปก่อนเกม

การพบกันครั้งนี้ถูกคาดหมายว่าจะดุเดือดและเต็มไปด้วยสีสัน เชลซีต้องดิ้นรนกลับสู่เส้นทางแห่งชัยชนะภายใต้แรงกดดันมหาศาล โดยหวังพลังจากแฟนบอลในสแตมฟอร์ดบริดจ์ ส่วนเบนฟิก้ามากับแรงกระตุ้นใหม่จากมูรินโญ และความหวังจากฟอร์มอันเฉียบคมของพาฟลิดิส ด้วยขุมกำลังที่ทั้งสองทีมมีอยู่ เกมนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในศึกที่น่าติดตามที่สุดในช่วงต้นของรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้