Mansion Sports – การแข่งขันฟุตบอลคาราบาวคัพ ฤดูกาล 2025/2026 รอบที่สี่ ระหว่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และ เชลซี จะจัดขึ้นที่สนามโมลินิวซ์ สเตเดียม ในคืนวันพุธที่ 29 ตุลาคม 2025 เวลา 19.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกมนี้ถือเป็นหนึ่งในการพบกันที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในรอบนี้ เนื่องจากทั้งสองทีมต่างอยู่ในช่วงที่ต้องการสร้างความมั่นใจและเรียกฟอร์มกลับมาอีกครั้ง

สำหรับวูล์ฟแฮมป์ตัน นี่คือโอกาสทองที่จะคืนฟอร์มต่อหน้าแฟนบอลของตนเอง ขณะที่เชลซีต้องการชัยชนะเพื่อฟื้นศรัทธาหลังจากพ่ายแพ้อย่างไม่คาดคิดในเกมลีกล่าสุด

สถานการณ์ของทั้งสองทีมก่อนการแข่งขัน

วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เคยมีประวัติความสำเร็จที่โดดเด่นในรายการ EFL Cup โดยคว้าแชมป์มาแล้วสองครั้งในปี 1974 และ 1980 อย่างไรก็ตาม ความรุ่งเรืองในอดีตนั้นดูเหมือนจะห่างไกลจากปัจจุบัน เพราะในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ทีมของ วิตอร์ เปไรรา เก็บได้เพียงสองแต้มจากเก้านัดแรก และรั้งอยู่ในอันดับสุดท้ายของตารางคะแนน

ถึงแม้ผลงานในลีกจะน่าผิดหวัง แต่วูล์ฟส์ยังคงโชว์ฟอร์มดีในถ้วยคาราบาวคัพ หลังจากเก็บชัยชนะเหนือเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และเอฟเวอร์ตันอย่างต่อเนื่องจนทะลุถึงรอบนี้ ทำให้แฟนบอลยังคงมีความหวังว่าทีมจะสร้างผลงานที่ดีในถ้วยใบนี้ได้

การเจอกับเชลซีในครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเรียกความมั่นใจกลับมา โดยในสถิติการพบกัน 5 ครั้งหลังสุด วูล์ฟส์เอาชนะได้ถึงสามเกม แม้สองครั้งล่าสุดจบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อ “สิงห์บลูส์” โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคม 2024 ที่พ่ายในบ้านถึง 2-6 และอีกครั้งในเดือนมกราคม 2025 ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ด้วยสกอร์ 1-3

สำหรับแมตช์นี้ เปไรราคาดว่าจะจัดทีมชุดที่แข็งแกร่งที่สุด โดยมีแรงสนับสนุนจากแฟนบอลในโมลินิวซ์เป็นกำลังใจสำคัญในการผลักดันทีมให้เล่นอย่างมั่นใจและกดดันคู่แข่งตั้งแต่ต้นเกม

เชลซี

ทางฝั่งเชลซี ภายใต้การคุมทีมของ เอนโซ มาเรสกา สถานการณ์ถือว่าดูดีกว่าวูล์ฟส์เล็กน้อย แม้จะเพิ่งพ่ายซันเดอร์แลนด์ 1-2 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหยุดสถิติชนะติดต่อกันในทุกรายการไว้ที่สี่นัด แต่โดยรวมแล้ว ทีมยังคงมีเสถียรภาพและอยู่ในช่วงการปรับตัวกับสไตล์การเล่นใหม่ของกุนซือชาวอิตาเลียนรายนี้

เชลซีเก็บได้ 14 คะแนนจาก 9 นัดแรกของพรีเมียร์ลีก อยู่ในอันดับที่เก้า ซึ่งแม้ยังห่างจากเป้าหมายหลักของสโมสร แต่ก็ถือว่าเป็นผลงานที่สามารถต่อยอดได้ ในศึกคาราบาวคัพฤดูกาลนี้ พวกเขาผ่านเข้ารอบมาด้วยการเฉือนชนะลินคอล์น ซิตี 2-1 ในรอบที่สาม

การบุกไปเยือนโมลินิวซ์ครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญของเชลซี เพื่อประเมินความลึกของขุมกำลังในช่วงที่ต้องลงเล่นถี่ และยังต้องรับมือกับอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลายราย

ในประวัติศาสตร์ถ้วยนี้ เชลซีเคยคว้าแชมป์ถึงห้าครั้ง โดยครั้งล่าสุดคือฤดูกาล 2014/2015 ที่พวกเขาเอาชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ ประสบการณ์และศักยภาพของทีมทำให้พวกเขายังคงถูกยกให้เป็นตัวเต็งในเกมนี้ แม้จะต้องออกไปเยือนก็ตาม

มาเรสกาจะต้องบริหารจัดการผู้เล่นอย่างระมัดระวัง เนื่องจากตารางแข่งขันที่แน่นขนัดและปัญหานักเตะบาดเจ็บ แต่ความยืดหยุ่นในการจัดทีมของเขาอาจเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสมดุลของฟอร์มโดยรวม

รายชื่อผู้เล่น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส พบ เชลซี 2025

วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (ระบบ 4-3-3)

ทีมเจ้าบ้านจะลงสนามด้วยสภาพทีมที่เกือบสมบูรณ์ ยกเว้น ลีออน ชิวโวม ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า ส่วนผู้เล่นหลักรายอื่นพร้อมลงสนามทั้งหมด วิตอร์ เปไรรา มีแนวโน้มจะผสมผสานระหว่างนักเตะประสบการณ์สูงกับดาวรุ่ง โดยมี ฮวาง ฮีชาน และ ชูเอา โกเมส กลับมาเป็นตัวจริง ขณะที่ ยอร์เกน สตรานด์ ลาร์เซน จะยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า

เชลซี (ระบบ 4-2-3-1)

เชลซีต้องเผชิญกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบนหลายราย ไมคายโล มูดริก จะหมดสิทธิ์ลงสนามจากโทษแบน ส่วน เลวี โควิลล์, ดาริโอ เอสซูโก, เลียม เดลาป, โคล พาล์มเมอร์ และ เบอนัวต์ บาดิอาชีล ยังอยู่ระหว่างพักรักษาตัว อย่างไรก็ตาม ทีมยังมีทางเลือกมากมาย โดย มาลอ กุสโต จะกลับมาหลังพ้นโทษแบน และมีโอกาสให้ดาวรุ่งอย่าง เวสลีย์ โฟฟานา, อันเดรย์ ซานโตส, โรเมโอ ลาเวีย, จอร์เรล ฮาโตะ, เจมี กิตเทนส์, และ ไทริก จอร์จ ได้ลงสนามตั้งแต่นาทีแรก ขณะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช ที่เพิ่งยิงประตูแรกให้ทีม จะมีโอกาสออกสตาร์ตอีกครั้ง

บทสรุปก่อนการแข่งขัน

การพบกันระหว่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และ เชลซี ในศึกคาราบาวคัพครั้งนี้ถูกคาดหมายว่าจะเป็นเกมที่สูสีและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แม้เชลซีจะเหนือกว่าจากศักยภาพของทีม แต่แรงจูงใจของเจ้าบ้านในการล้างอายจากผลงานในลีกอาจสร้างแรงผลักดันให้เกิดความพลิกผันได้

ทั้งสองทีมต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้างโมเมนตัมเชิงบวกและการผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ท่ามกลางบรรยากาศอันดุดันในโมลินิวซ์ สเตเดียม การแข่งขันครั้งนี้มีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนึ่งในเกมที่น่าจดจำของรายการคาราบาวคัพฤดูกาลนี้