รายชื่อผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พฤศจิกายน 2025
Mansion Sports – การพบกันของสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปกลับมาอีกครั้งที่สนามเอติฮัด สเตเดียม เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สี่ ฤดูกาล 2025/2026 การแข่งขันที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในแมตช์สุดเดือดของรอบนี้จะมีขึ้นในวันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2025 เวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งสองทีมต่างมีฟอร์มยอดเยี่ยมในช่วงต้นฤดูกาล โดยซิตี้และดอร์ทมุนด์ต่างมีอยู่ 7 คะแนนจากสามนัดแรก แต่ดอร์ทมุนด์รั้งอันดับเหนือกว่าเล็กน้อยเนื่องจากมีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า การเผชิญหน้าครั้งนี้จึงถือเป็นการวัดศักยภาพของสองทีมที่มีรูปแบบการเล่นต่างขั้วกันอย่างชัดเจน
สภาพความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนการแข่งขัน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ภายใต้การคุมทีมของโจเซป กวาร์ดิโอลา ยังคงรักษาความแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่องในศึกแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ พวกเขาเก็บได้เจ็ดคะแนนจากสามนัดแรกในการเจอกับคู่แข่งอย่างนาโปลี, โมนาโก และบียาร์เรอัล โดยเก็บชัยชนะได้สองนัดด้วยสกอร์ 2-0 เหนือนาโปลีและบียาร์เรอัล รวมถึงเสมอกับโมนาโก 2-2 ผลงานดังกล่าวสะท้อนถึงสไตล์การเล่นที่เน้นการครองบอลและการคุมจังหวะเกมในแบบฉบับของกวาร์ดิโอลา
อย่างไรก็ตาม ความคมในแดนหน้ายังเป็นจุดที่ต้องพัฒนา แม้ซิตี้จะทำได้หกประตูจากสามนัด แต่กวาร์ดิโอลายังต้องการให้ลูกทีมมีความเฉียบขาดมากกว่านี้ ปัจจุบันซิตี้อยู่ในอันดับที่เจ็ดของตารางรวมรอบลีก ซึ่งยังคงมีโอกาสสูงในการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ในศึกภายในประเทศ ฟอร์มของพวกเขากลับมาดีขึ้นหลังจากเคยพ่ายแอสตัน วิลลาแบบเหนือความคาดหมาย สองชัยชนะต่อเนื่องเหนือสวอนซี ซิตี้ (3-1) และบอร์นมัธ (3-1) บ่งบอกว่าระบบเกมรุกเริ่มกลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ศูนย์หน้าตัวเก่งก็เริ่มกลับมาทำประตูได้ต่อเนื่อง โดยซัดไปสองลูกในเกมล่าสุดกับบอร์นมัธ ส่งผลให้ซิตี้ไต่อันดับขึ้นมาอยู่อันดับสองของพรีเมียร์ลีกตามหลังอาร์เซนอลเพียงหกคะแนน
ข่าวดีเพิ่มเติมคือ ฮาแลนด์และโรดรี — เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปี 2024 — พร้อมลงสนามเต็มรูปแบบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอลายังต้องขาดมาเตโอ โควาซิชที่บาดเจ็บข้อเท้า และต้องระวังไม่ให้แบร์นาร์โด ซิลวาได้รับใบเหลืองเพิ่มจนถูกแบน
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ในฝั่งของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมของนิโก โควัชมาพร้อมผลงานอันยอดเยี่ยมในแชมเปียนส์ลีก พวกเขาโชว์ฟอร์มร้อนแรงโดยทำได้ถึงสี่ประตูในทุกนัดจากสามเกมที่ผ่านมา ได้แก่ เสมอยูเวนตุส 4-4, ชนะแอธเลติก บิลเบา 4-1 และบุกชนะโคเปนเฮเกน 4-2 ผลงานดังกล่าวทำให้ดอร์ทมุนด์เป็นหนึ่งในทีมที่ยิงประตูมากที่สุดของรายการ รั้งตำแหน่งร่วมกับบาเยิร์น มิวนิก (12 ประตู) และเป็นรองเพียงปารีส แซงต์-แชร์กแมง (13 ประตู)
แกนหลักของทีมอยู่ที่แดนกลาง โดยเฟลิกซ์ เอ็นเมชาทำผลงานโดดเด่นยิงได้สองประตูในเกมล่าสุด ขณะที่โจบ เบลลิงแฮมสร้างสรรค์เกมด้วยสองแอสซิสต์อันยอดเยี่ยม ความลงตัวในเกมรุกนี้กลายเป็นอาวุธสำคัญของดอร์ทมุนด์ในการรับมือกับซิตี้ที่มีสไตล์การครองบอลสูง
แม้ฟอร์มในบุนเดสลีกาจะดรอปลงเล็กน้อยในแง่ความดุดัน แต่ทีมยังคงเก็บชัยได้สามนัดรวด โดยหนึ่งในนั้นคือการเอาชนะไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ตจากการดวลจุดโทษในศึกเดเอฟเบ โพคาล ก่อนเกมนี้ โควัชได้รับข่าวดีเมื่อสองแนวรับตัวหลัก นิโค ชลอตเทอร์เบ็คและนิคลาส ซือเล่ ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บและพร้อมกลับมาลงสนาม ขณะที่ฌูลียง ดูร็องวิลล์ยังต้องพักต่อจากอาการบาดเจ็บหัวไหล่
เกมนี้ยังมีความหมายเชิงอารมณ์ เนื่องจากเออร์ลิง ฮาแลนด์จะได้เผชิญหน้ากับต้นสังกัดเก่าของเขาอีกครั้ง ขณะที่ดอร์ทมุนด์ต้องการพิสูจน์ว่าพวกเขาสามารถท้าทายหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรปได้อย่างสูสี
รายชื่อผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พฤศจิกายน 2025
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะลงสนามพร้อมขุมกำลังเกือบสมบูรณ์ การกลับมาของฮาแลนด์และโรดรีช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในทุกจุด กวาร์ดิโอลาคาดว่าจะใช้ระบบ 4-1-4-1 เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเกมรุกและเกมรับ
แนวรุกของซิตี้จะอันตรายยิ่งขึ้นด้วยปีกความเร็วสูงอย่างซาวินโญและโดกู รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ของโฟเดนในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ ซึ่งทำให้ทีมมีโอกาสเปิดเกมบุกตั้งแต่ต้นเกม
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (3-4-2-1)
ด้านทีมเยือน นิโก โควัชมีแนวโน้มที่จะใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมก่อนหน้านี้ หากชลอตเทอร์เบ็คฟิตเต็มที่ เขาจะกลับมาจับคู่กับแอนตอนและเบนเซไบนีในแนวรับอีกครั้ง
คู่ประสานงานของบรันด์ทและไบเออร์ที่อยู่หลังศูนย์หน้ากีราสซีจะเป็นจุดอันตรายของดอร์ทมุนด์ โดยเฉพาะในการโจมตีสวนกลับเร็วซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทีม
บทสรุปก่อนการแข่งขัน
ศึกแมนเชสเตอร์ ซิตี้พบโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในเดือนพฤศจิกายน 2025 นี้เป็นมากกว่าการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มทั่วไป แต่เป็นการเผชิญหน้าระหว่างสองแนวคิดฟุตบอลยุคใหม่ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง — การครองบอลอย่างเป็นระบบของกวาร์ดิโอลากับเกมสวนกลับอันรวดเร็วและแม่นยำของโควัช ทั้งสองทีมต่างมีภารกิจสำคัญ ซิตี้ต้องการการันตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนดอร์ทมุนด์หวังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงในกลุ่ม การต่อสู้ที่เอติฮัดครั้งนี้จึงเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่แฟนบอลทั่วโลกจับตาอย่างใกล้ชิด.