Mansion Sports – ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2025/2026 เดินทางมาถึงสัปดาห์ที่ 9 ซึ่งจะมีหนึ่งในเกมที่น่าจับตามองที่สุดระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

การแข่งขันจะมีขึ้นที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2025 เวลา 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เกมนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังพยายามรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อาโมริม

ในขณะเดียวกัน ไบรท์ตันเดินทางมาพร้อมความมั่นใจและความมุ่งมั่นที่จะสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้ง หลังเคยคว้าคะแนนจาก “ปีศาจแดง” ในการพบกันครั้งล่าสุด

ก่อนเสียงนกหวีดเริ่มเกม มาดูการวิเคราะห์จาก Mansion Sports ถึงสถานการณ์ของทั้งสองทีมและการคาดการณ์รายชื่อผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ไบรท์ตัน 2025 กัน

สภาพความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนการแข่งขัน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลงานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ยังคงไม่สม่ำเสมอ แต่ชัยชนะสองนัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกช่วยฟื้นฟูความมั่นใจและบรรยากาศในทีมได้อย่างมาก

หลังจากเอาชนะซันเดอร์แลนด์ 2-0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทีมของอาโมริมยังสร้างผลงานสุดยอดด้วยการบุกไปชนะลิเวอร์พูล 2-1 ที่แอนฟิลด์ ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งแรกในรังของ “หงส์แดง” ตั้งแต่ปี 2016

สองประตูจาก ไบรอัน เอ็มเบอูโม่ และ แฮร์รี แม็กไกวร์ เป็นตัวตัดสินชัยชนะสำคัญนี้ ซึ่งช่วยกระตุ้นขวัญกำลังใจของทีมและตอกย้ำความมั่นใจในแนวทางการทำทีมของอาโมริม

ชัยชนะดังกล่าวยังพายูไนเต็ดขยับขึ้นสู่อันดับ 9 ของตาราง มีคะแนนตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 เพียงสามแต้มเท่านั้น

อาโมริมตั้งเป้าที่จะสานต่อฟอร์มชนะในบ้าน ซึ่งทีมสามารถเก็บชัยได้สามนัดติดต่อกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด จากการพบซันเดอร์แลนด์ เชลซี และเบิร์นลีย์

อย่างไรก็ตาม สถิติการเจอกับไบรท์ตันเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะจากการพบกันเจ็ดครั้งหลังสุดในลีก ยูไนเต็ดชนะเพียงครั้งเดียวและแพ้ถึงหกครั้ง

ไบรท์ตันมักสร้างปัญหาให้แนวรับของยูไนเต็ดได้เสมอ ด้วยจังหวะการขึ้นเกมเร็วและการเคลื่อนที่ที่แม่นยำ

อาโมริมตระหนักดีว่าความสม่ำเสมอและความสมดุลของทีมเป็นกุญแจสำคัญ เขาอาจปรับเปลี่ยนผู้เล่นบางตำแหน่งในเกมรับและริมเส้น เพื่อรักษาความฟิตของนักเตะท่ามกลางตารางการแข่งขันที่แน่นในช่วงปลายเดือนตุลาคม

ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

ด้านทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ภายใต้การคุมทีมของ ฟาเบียน เฮิร์เซเลอร์ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีเช่นกัน

หลังจากพ่ายบอร์นมัธ พวกเขากลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยสี่นัดติดต่อกันโดยไม่แพ้ใคร รวมถึงชัยชนะเหนือเชลซี 3-1 และนิวคาสเซิล 2-1

หนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นที่สุดคือ แดนนี เวลเบ็ค อดีตกองหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทำสองประตูในเกมชนะนิวคาสเซิล ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาทำให้เฮิร์เซเลอร์มีแนวโน้มที่จะมอบหมายบทบาทศูนย์หน้าตัวเป้าในเกมนี้อีกครั้ง

ไบรท์ตันอยู่ในอันดับใกล้เคียงกับยูไนเต็ด โดยมีคะแนนห่างกันเพียงแต้มเดียว หมายความว่าหากพวกเขาสามารถคว้าผลการแข่งขันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดได้ ก็มีโอกาสแซงเจ้าถิ่นขึ้นไปบนตาราง

ทั้งสองทีมมีแนวทางการเล่นที่เน้นเกมรุก ทำให้เกมนี้ถูกคาดว่าจะเปิดหน้าแลกกันอย่างสนุกและเต็มไปด้วยโอกาส

แม้ไบรท์ตันจะยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ แต่พวกเขาก็ยังมีขุมกำลังสำรองที่พร้อมลงสนามและแข่งขันได้ในระดับสูง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ไบรท์ตัน 2025

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-2-1)

ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังไม่พร้อมลงสนามจากอาการบาดเจ็บที่เข่า ขณะที่ แพทริก ดอร์กู อาจได้โอกาสลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ็กหากอาโมริมต้องการหมุนเวียนผู้เล่นในฝั่งขวา

ส่วน เบนจามิน เชสโก้ มีแนวโน้มกลับมาเป็นตัวจริงแทน เมสัน เมาท์ หลังจากได้พักในเกมกับลิเวอร์พูล

ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (4-2-3-1)

ไบรท์ตันจะไม่มี ซอลลี่ มาร์ช และ อดัม เว็บสเตอร์ ที่ยังบาดเจ็บหัวเข่า ขณะที่ คาโอรุ มิโตมะ, โจเอล เฟลท์มัน, ดิเอโก โกเมซ, และ บราจาน กรูด้า ยังต้องรอทดสอบความฟิต

หากมิโตมะไม่พร้อมลงเล่น เฮิร์เซเลอร์อาจดัน แม็กซิม เดอ คอยเปอร์ ขึ้นไปเล่นทางกราบซ้ายเพื่อเติมเกมรุก

บทส่งท้าย

ศึก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ไบรท์ตัน 2025 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งในแมตช์ที่เข้มข้นที่สุดของพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้

ทั้งสองทีมต่างอยู่ในฟอร์มที่ดีและมีสไตล์การเล่นเน้นเกมรุก ซึ่งน่าจะทำให้แฟนบอลได้ชมเกมที่เปิดแลกกันตั้งแต่นาทีแรกจนจบ

สำหรับ รูเบน อาโมริม เกมนี้เป็นบททดสอบสำคัญในการพิสูจน์ความต่อเนื่องของทีมและลบสถิติที่ไม่ดีในการเจอกับไบรท์ตัน

ในขณะที่ ฟาเบียน เฮิร์เซเลอร์ ตั้งใจพาไบรท์ตันรักษาผลงานอันยอดเยี่ยมและยืนยันว่า “นกนางนวล” ไม่ได้เป็นเพียงทีมรองบ่อนอีกต่อไป

ด้วยศักยภาพของผู้เล่นทั้งสองทีมและประวัติการพบกันที่เต็มไปด้วยความพลิกผัน เกมนี้จึงเป็นแมตช์ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่ควรพลาด

ไม่ว่าจะจบลงด้วยผลลัพธ์เช่นไร การต่อสู้ที่ “โรงละครแห่งความฝัน” ครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งเกมที่สะท้อนเสน่ห์แท้จริงของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก.