Mansion Sports – การแข่งขันระหว่างทีมชาติโปแลนด์และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 โซนยุโรป ถือเป็นหนึ่งในเกมสำคัญของกลุ่ม G การดวลกันที่สนามสตาดิโอน นาราดอวี กรุงวอร์ซอว์ ในวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2025 เวลา 20.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ถูกคาดหมายว่าจะเต็มไปด้วยความเข้มข้น เนื่องจากทั้งสองทีมกำลังไล่บี้กันอย่างสูสีในพื้นที่หัวตาราง ก่อนเกมเริ่มขึ้น มาดูความพร้อมของทั้งคู่และการจัดทัพที่คาดการณ์ไว้สำหรับโปแลนด์ พบ เนเธอร์แลนด์ พฤศจิกายน 2025

สภาพความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนการแข่งขัน

โปแลนด์

โปแลนด์ยังคงไล่ล่าตั๋วผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกแบบอัตโนมัติ ภายใต้การคุมทีมของ ยาน อูร์บัน พวกเขามี 13 คะแนนจากหกนัด ผลงานประกอบด้วยสี่ชัยชนะ หนึ่งผลเสมอ และหนึ่งความพ่ายแพ้ ชัยชนะ 2-0 เหนือลิทัวเนียช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น และหากคว้าชัยเหนือเนเธอร์แลนด์ได้ การแข่งขันแย่งตำแหน่งจ่าฝูงจะยิ่งดุเดือดมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาสถิติการพบกัน โปแลนด์มักประสบความยากลำบากเมื่อเผชิญหน้ากับเนเธอร์แลนด์ จากทั้งหมด 21 ครั้ง พวกเขาชนะเพียงสามนัดและแพ้สิบครั้ง แม้สองในสี่ครั้งล่าสุดลงเอยด้วยผลเสมอ แต่โปแลนด์ยังคงเผชิญโจทย์ใหญ่ต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง

เนเธอร์แลนด์

เนเธอร์แลนด์เดินทางมาในฐานะจ่าฝูง ด้วยการเก็บ 16 คะแนนจากหกเกม และนำโปแลนด์อยู่สามคะแนน หากเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ พวกเขาจะคว้าตั๋วผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 โดยไม่ต้องรอผลนัดสุดท้ายกับลิทัวเนีย

ผลงานในรอบคัดเลือกของเนเธอร์แลนด์โดดเด่นอย่างยิ่ง พวกเขาชนะห้านัด เสมอหนึ่ง ยิงได้ 22 ประตู และเสียเพียงสามประตู เกมเดียวที่จบลงด้วยผลเสมอคือการพบโปแลนด์ที่อัมสเตอร์ดัมเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งทำให้โรนัลด์ โคแมนต้องการปิดงานที่ค้างไว้ในครั้งนี้

ตารางคะแนนกลุ่ม G ล่าสุด

รายชื่อผู้เล่น โปแลนด์ พบ เนเธอร์แลนด์ พฤศจิกายน 2025

โปแลนด์ (3-4-3)

โปแลนด์ยังคงฝากความหวังในเกมรุกไว้ที่โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ผู้ซึ่งเพิ่งทำแฮตทริกในระดับสโมสรและคาดว่าจะเป็นศูนย์กลางเกมบุก เซบาสเตียน ชิมันสกีมีลุ้นออกสตาร์ตอีกครั้งหลังทำประตูในเกมพบลิทัวเนีย ส่วนยาคุบ คามินสกีจะประจำการทางริมเส้น

การขาดแยน เบ็ดนาเร็ก และวูคาช สโกรุปสกี ถือเป็นความเสียหายสำหรับเจ้าถิ่น โดยโทมัช เค็นด์ซิออราอาจได้รับโอกาสยืนแนวรับแทนเบ็ดนาเร็ก

เนเธอร์แลนด์ (4-2-3-1)

ในฝั่งเนเธอร์แลนด์ มัทไธส์ เดอ ลิกต์กลับมามีชื่อในทีมหลังโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่องกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้มีโอกาสสูงที่จะเริ่มเกมบนม้านั่งสำรอง แนวรับคาดว่าจะนำโดยสามแข้งจากพรีเมียร์ลีก ได้แก่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, เยอร์เรียน ทิมเบอร์ และมิคกี้ ฟาน เดอ เวน

แดนกลาง เฟรงกี เดอ ยอง และไรอัน กราเวนเบิร์ค รับหน้าที่ควบคุมจังหวะเกม เมมฟิส เดปายจะเป็นตัวความหวังในแดนหน้าพร้อมการสนับสนุนจากโคดี กัคโป, จัสติน ไคลเวิร์ต และดอนเยลล์ มาเลน ส่วนเวาต์ เวกฮอร์สต์ไม่สามารถลงสนามได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บ

บทสรุป

การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการต่อสู้เพื่อสามคะแนน แต่ยังสะท้อนศักดิ์ศรีและโอกาสในการก้าวสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่งทั้งสองฝ่าย บรรยากาศภายในสตาดิโอน นาราดอวีจึงน่าจะเต็มไปด้วยความตึงเครียดตลอดทั้งเกม