
รายชื่อผู้เล่น ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน พบ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2025
Mansion Sports – การแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025/2026 กลับมาสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง โดยในสัปดาห์นี้เป็นคิวของการดวลระหว่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2025 เวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่สนาม บาเยอารีน่า ประเทศเยอรมนี
แมตช์นี้ถือเป็นศึกใหญ่ของสองทีมที่อยู่ในเส้นทางต่างกันอย่างชัดเจน — เลเวอร์คูเซินยังคงตามหาชัยชนะนัดแรกในรายการนี้ ขณะที่ PSG ในฐานะแชมป์เก่ายังคงเดินหน้าคว้าชัยต่อเนื่อง พร้อมพิสูจน์ว่า พวกเขายังคงเป็น “ราชาแห่งยุโรป” ที่แท้จริง การเผชิญหน้าครั้งนี้คาดว่าจะเป็นเกมที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น กลยุทธ์ และคุณภาพระดับสูงจากทั้งสองฝ่าย
สภาพความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนเกม
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน เริ่มต้นการผจญภัยในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ได้ไม่ราบรื่นนัก หลังเสมอในสองนัดแรกกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน และ เอฟซี โคเปนเฮเกน แม้ยังไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ แต่ทีมของ คาสเปอร์ ฮูลมันด์ ยังคงรักษาความคงเส้นคงวาด้วยผลงานไร้พ่ายในห้าเกมหลังสุดรวมทุกรายการ
ในเกมล่าสุดกับโคเปนเฮเกน เลเวอร์คูเซินแสดงให้เห็นถึงจิตใจนักสู้ ด้วยการไล่ตีเสมอถึงสองครั้งจนจบเกมที่สกอร์ 2-2 ผลเสมอดังกล่าวสร้างแรงกดดันให้พวกเขาจำเป็นต้องเก็บสามแต้มให้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำรอยฤดูกาล 2016 ที่ไม่สามารถชนะได้เลยในสามนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม
จากสถิติที่ผ่านมา เลเวอร์คูเซินมีผลงานที่ยอดเยี่ยมเมื่อเจอกับทีมจากฝรั่งเศสในแชมเปียนส์ลีก พวกเขายังไม่เคยแพ้ในการเจอกันห้าครั้งล่าสุดในรอบแบ่งกลุ่ม อีกทั้งสนาม บาเยอารีน่า ก็ถือเป็นจุดแข็งของพวกเขา โดยแพ้เพียงหนึ่งครั้งจาก 17 เกมยุโรปหลังสุดในบ้าน และเก็บคลีนชีตได้ถึงสี่เกมในรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลก่อน
อย่างไรก็ตาม ทีมยังต้องเจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายราย อาทิ เอเซเกียล ปาลาซิออส, นาธาน เทลลา, และ จาเรล ควานซาห์ ขณะที่ แพทริก ชิค และ มาร์ติน แทร์ริเยร์ ก็ยังคงพักรักษาอาการบาดเจ็บที่ต้นขาและเอ็นร้อยหวาย แต่ข่าวดีคือฟอร์มของ คริสเตียน มิเชล โคฟาเน่ ที่ยิงประตูได้สามนัดติดต่อกันอาจเป็นความหวังหลักของทีมในเกมนี้
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG)
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เดินทางมาเยอรมนีในฐานะแชมป์เก่ายูฟ่าแชมเปียนส์ลีก พร้อมผลงานอันโดดเด่นในสองนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม หลังคว้าชัยเหนือ อตาลันต้า และ บาร์เซโลนา ได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเกมกับบาร์เซโลนา ที่พวกเขาพลิกสถานการณ์จากการตามหลังจนชนะไปอย่างดราม่า
ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ PSG ยังคงไร้พ่ายในศึกแชมเปียนส์ลีกติดต่อกันถึง 14 นัด โดยในจำนวนนั้นเป็นชัยชนะถึง 12 นัด หากสามารถเอาชนะเลเวอร์คูเซินได้อีก จะทำให้พวกเขาทำสถิติชนะรวด 6 นัดติดต่อกัน ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติสูงสุดของสโมสรในปี 1994
อย่างไรก็ดี สถิติการเล่นเกมเยือนในเยอรมนียังคงเป็นจุดอ่อนของพวกเขา โดยใน 10 นัดล่าสุดกับทีมจากบุนเดสลีกา PSG ชนะได้เพียงสองเกมและยังไม่เคยเก็บคลีนชีตเลย อีกทั้งพวกเขายังต้องรับมือกับอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลักอย่าง อุสมาน เดมเบเล่, เจา เนเวส, และ มากวินญอส
ถึงกระนั้น PSG ก็ยังอันตรายด้วยขุมกำลังหนุ่มและมากพรสวรรค์อย่าง เซนนี่ มายูลู และ กอนซาโล รามอส ที่ทำผลงานโดดเด่นในเกมกับบาร์เซโลนา รวมถึง ควิช่า ควารัตส์เคเลีย และ แบร็ดลีย์ บาร์โกลา ที่พร้อมสร้างความปั่นป่วนทางริมเส้น การผสมผสานระหว่างความเร็วและเทคนิคของพวกเขาทำให้ PSG ยังคงเป็นทีมที่น่าเกรงขามอย่างแท้จริง
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม: ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน vs ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2025
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน (ระบบ 3-4-2-1)
แม้จะมีผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย แต่ฮูลมันด์คาดว่าจะยังคงยึดแผนการเล่นเชิงรุก โดยให้ โคฟาเน่ เป็นหัวหอกหลัก ส่วน อาร์เธอร์ และ กริมาลโด จะรับบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเกมรุกจากแดนกลางและริมเส้น
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ระบบ 4-3-3)
เอ็นริเก้ยังคงมีตัวเลือกมากมายให้ใช้งาน แม้นักเตะบางส่วนจะบาดเจ็บ โดยสามประสานในแนวรุกอย่าง ควารัตส์เคเลีย, รามอส, และ บาร์โกลา จะเป็นอาวุธหลักของทีม ขณะที่คู่ฟูลแบ็กอย่าง ฮาคิมี และ เมนเดส จะมีบทบาทสำคัญในการต้านเกมรุกของเจ้าถิ่น
บทสรุปก่อนการแข่งขัน
ศึกระหว่างไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในเกมที่สามของรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025/2026 นี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การวัดแท็กติกเท่านั้น แต่ยังเป็นบททดสอบของความแข็งแกร่งทางจิตใจและความสม่ำเสมอของทั้งสองทีม
เลเวอร์คูเซินจะพึ่งพาความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านและพลังของนักเตะสายเลือดใหม่ เพื่อรับมือกับทีมแชมป์เก่าที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ ขณะที่ PSG ยังคงมุ่งมั่นแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานของทีมระดับทวีป
ด้วยรายชื่อผู้เล่นคุณภาพระดับสูงจากทั้งสองฝ่าย เกมนี้จึงถูกคาดหมายว่าจะเป็นการต่อสู้ที่รวดเร็ว เข้มข้น และเต็มไปด้วยอารมณ์แห่งฟุตบอลยุโรปอย่างแท้จริง แฟนบอลทั่วโลกต่างจับตามองว่า ระหว่าง “ห้างขายยา” แห่งเยอรมนี กับ “ยอดทีมแห่งปารีส” ใครจะเป็นฝ่ายยืนหยัดได้เมื่อเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้นที่บาเยอารีน่า