Mansion Sports – การแข่งขันอันยิ่งใหญ่ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025/2026 กำลังจะเกิดขึ้นที่สนามปาร์ก เด แพร็งส์ เมื่อปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของบาเยิร์น มิวนิกในแมตช์เดย์ที่ 4 โดยจะเริ่มต้นในวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2025 เวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น 

การพบกันของสองมหาอำนาจแห่งยุโรปครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม แต่ยังเป็นเวทีพิสูจน์ศักยภาพและความลึกของขุมกำลังทั้งสองทีมอีกด้วย ทั้ง PSG และบาเยิร์นต่างอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม โดยยังไม่แพ้ใครและครองความโดดเด่นในทั้งลีกในประเทศและเวทียุโรป

สองผู้จัดการทีมอย่างหลุยส์ เอ็นรีเก้และวินเซนต์ กอมปานี ต่างมีแนวทางการเล่นเกมรุกที่น่าตื่นตาตื่นใจแต่ใช้วิธีการที่แตกต่างกัน PSG เน้นการครองบอลและความสร้างสรรค์ในแดนกลาง ขณะที่บาเยิร์นเล่นด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น มาดูการคาดการณ์รายชื่อผู้เล่นของ PSG และบาเยิร์น มิวนิกจาก Mansion Sports กัน

สภาพความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนการแข่งขัน

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

PSG เคยประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บในช่วงต้นฤดูกาล โดยผู้เล่นคนสำคัญหลายราย เช่น เดซิเร ดูเอ, ควิชา ควารัตสเคเลีย, อุสมาน เดมเบเล และวิตินญา ต้องพักรักษาตัว แต่หลุยส์ เอ็นรีเก้ยังสามารถรักษาจังหวะทีมให้คงเส้นคงวาและเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องแม้ขาดกำลังหลักหลายคน

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟอร์มของเลส์ ปาริเซียงกลับมาสู่ระดับสูงสุดอีกครั้ง การคว้าชัยชนะสุดดราม่าเหนือ นีซ 1-0 ในลีกเอิง แสดงให้เห็นถึงสปิริตของทีม โดยกอนซาโล รามอสเป็นผู้ทำประตูชัยในนาทีที่ 94 การครองบอลสูงถึง 77% สะท้อนให้เห็นถึงความเหนือชั้นของ PSG ในแดนกลางแม้ต้องเจอแรงกดดันหนักหน่วง

ในเวทียุโรป PSG ก็ทำผลงานได้อย่างมั่นใจ การเอาชนะไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 7-2 ที่เยอรมนีเป็นสัญญาณว่าพวกเขายังมีศักยภาพเกมรุกที่อันตราย ด้วยสถิติสมบูรณ์แบบในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกจนถึงตอนนี้ PSG ตั้งเป้าที่จะรักษาความได้เปรียบในบ้านต่อไป โดยผลเสมอเพียงนัดเดียวที่ปาร์ก เด แพร็งส์เกิดขึ้นตอนพบสทราสบูร์กเมื่อเดือนก่อน

อย่างไรก็ตาม เอ็นรีเก้จะไม่สามารถใช้งานอิลยา ซาบาร์นีที่ถูกแบนจากใบแดงในเกมกับเลเวอร์คูเซนได้ แต่คู่แนวรับมาร์กินญอสกับวิลเลียน ปาโชยังคงเป็นกำแพงที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน เดซิเร ดูเอยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บต้นขา ส่วนสามประสานแนวรุก แบรดลีย์ บาร์โคล่า, อุสมาน เดมเบเล และควิชา ควารัตสเคเลีย พร้อมลงสนามเพื่อสร้างความกดดันแนวรับของบาเยิร์น

บาเยิร์น มิวนิก

ในฝั่งทีมเยือน บาเยิร์น มิวนิกเดินทางมาปารีสด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ภายใต้การคุมทีมของวินเซนต์ กอมปานี “เสือใต้” แสดงความเฉียบคมอย่างต่อเนื่องโดยคว้าชัย 15 นัดติดต่อกันในทุกรายการ พร้อมสถิติการทำประตูที่ยอดเยี่ยม

สามแนวรุกอย่างไมเคิล โอลีส, แฮร์รี เคน และหลุยส์ ดิอาซคือหัวใจสำคัญของเกมรุก โดยทั้งสามมีส่วนร่วมใน 54 ประตูจาก 15 เกม ทำให้บาเยิร์นกลายเป็นทีมที่เฉียบขาดที่สุดในยุโรปตอนนี้ ชัยชนะเหนือคลับ บรูช 4-0 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นถึงสมดุลทั้งเกมรุกและเกมรับ ก่อนจะต่อยอดด้วยสามชัยชนะรวดในบุนเดสลีกา รวมถึงการถล่มไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 3-0

ความสม่ำเสมอนี้ส่งผลให้บาเยิร์นขึ้นนำจ่าฝูงบุนเดสลีกา และมีคะแนนเท่ากับ PSG ในตารางกลุ่มแชมเปียนส์ลีกแต่เป็นรองเพียงผลต่างประตูได้เสีย สถิตินัดเยือนของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ชนะ 8 นัดรวด พร้อมเก็บคลีนชีต 2 ครั้งใน 3 เกมล่าสุด กอมปานีมั่นใจว่าทีมของเขาพร้อมสร้างบททดสอบที่แท้จริงให้กับแชมป์เก่า

อย่างไรก็ตาม บาเยิร์นจะขาดอัลฟอนโซ เดวีส์และฮิโรกิ อิโตะที่ยังไม่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บ แต่กอมปานียังมีขุมกำลังเพียงพอและคาดว่าจะปรับเล็กน้อยในตำแหน่งฟูลแบ็ก

รายชื่อผู้เล่น PSG พบ บาเยิร์น มิวนิก 2025

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (4-3-3)

หลุยส์ เอ็นรีเก้มีแนวโน้มที่จะยังคงไว้วางใจเชอวาลิเยร์ในตำแหน่งผู้รักษาประตู โดยคู่มาร์กินญอสและปาโชทำหน้าที่ในแนวรับ ส่วนแดนกลาง แซร์ เอเมรีและเนเวสจะควบคุมจังหวะการเล่น ขณะที่แนวรุกสามประสาน ควารัตสเคเลีย, เดมเบเล และบาร์โคล่าจะเป็นความหวังหลักในการเจาะแนวรับบาเยิร์น

บาเยิร์น มิวนิก (4-2-3-1)

วินเซนต์ กอมปานีคาดว่าจะยังคงมอบหมายให้นอยเออร์รับหน้าที่เฝ้าเสา โดยมีอูปาเมกาโนและทาห์คุมแนวรับตรงกลาง ส่วนแฮร์รี เคนจะรับบททั้งผู้สร้างสรรค์เกมและศูนย์หน้าตัวเป้า โดยมีโอลีสและดิอาซคอยสนับสนุนจากริมเส้น ขณะที่แจ็กสันจะยืนเป็นกองหน้าตัวหลักในการล่าประตู

บทส่งท้าย

การแข่งขันระหว่าง PSG และบาเยิร์น มิวนิก 2025 ถือเป็นหนึ่งในแมตช์ที่น่าติดตามที่สุดในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ ทั้งสองทีมต่างอยู่ในฟอร์มยอดเยี่ยม มีผู้จัดการทีมที่เน้นเกมรุกและขุมกำลังนักเตะระดับโลกที่พร้อมแสดงศักยภาพเต็มที่ ด้วยรายชื่อผู้เล่นที่แข็งแกร่งทั้งสองฝั่ง การต่อสู้ที่สนามปาร์ก เด แพร็งส์ครั้งนี้อาจดำเนินไปอย่างเข้มข้นจนถึงนาทีสุดท้าย โดยมีทั้งกลยุทธ์ ความดุดัน และอารมณ์ในเกมที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ของฟุตบอลยุโรปอย่างแท้จริง.