Premier League | 23 December 2025 | 369

สถานที่รับชมการแข่งขัน Arsenal vs Crystal Palace เดือนธันวาคม 2025

Mansion Sports – ศึกดาร์บีลอนดอนที่ดุเดือดกำลังจะเกิดขึ้นในรายการคาราบาวคัพ เมื่ออาร์เซนอลและคริสตัล พาเลซ ต้องเผชิญหน้ากันเพื่อแย่งชิงตั๋วใบสุดท้ายสู่รอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2025-26

การแข่งขันนัดนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของศักดิ์ศรีเท่านั้น แต่ยังเป็นจังหวะสำคัญของทั้งสองทีมท่ามกลางโปรแกรมการแข่งขันช่วงปลายปีที่อัดแน่น

แมตช์นี้จะเป็นตัวตัดสินทีมรองชนะเลิศลำดับที่สี่และทีมสุดท้ายของคาราบาวคัพ ฤดูกาล 2025-26 เมื่อสองคู่ปรับร่วมเมืองลอนดอนอย่างอาร์เซนอลและคริสตัล พาเลซ ปิดฉากการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศของฤดูกาลนี้

การแข่งขันมีกำหนดจัดขึ้นที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม ในวันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2025 เวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

อาร์เซนอลผ่านเข้าสู่รอบแปดทีมสุดท้ายหลังเอาชนะพอร์ต เวล และไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ขณะที่คริสตัล พาเลซ เอาชนะมิลล์วอลล์ และทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้อย่างลิเวอร์พูล ในเส้นทางลุ้นคว้าแชมป์

ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น มารับชมคำแนะนำจาก Mansion Sports เกี่ยวกับสถานที่รับชมการแข่งขัน Arsenal vs Crystal Palace เดือนธันวาคม 2025 เพื่อไม่พลาดทุกจังหวะความมันส์ของเกมนี้

สภาพความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนเกม

Arsenal

ไม่มีผู้เล่นคนใดในทีมชุดใหญ่ของอาร์เซนอลในปัจจุบันที่ยังมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่เดอะ กันเนอร์ส คว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นรายการที่พวกเขาคว้าแชมป์ได้เพียงสองครั้งตลอดประวัติศาสตร์ คือในปี 1987 และ 1993 อย่างไรก็ตาม เวมบลีย์กลับมาอยู่ในระยะเอื้อมอีกครั้ง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ด้วยความลึกของขุมกำลังที่เหนือชั้น ได้ครองความยิ่งใหญ่ในรายการนี้ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา

หลังจากการทุ่มงบเสริมทัพมูลค่า 250 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ อาร์เซนอลจึงมีความลึกของทีมในระดับเดียวกัน แม้ปัญหาอาการบาดเจ็บจะยังคงรบกวนมิเกล อาร์เตตาและทีมงานของเขา

อย่างไรก็ตาม ยักษ์ใหญ่แห่งลอนดอนเหนือสามารถผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศอีเอฟแอลคัพได้เป็นครั้งที่สี่จากหกฤดูกาลหลังสุด

อาร์เซนอลยังคว้าชัยชนะในรอบนี้ได้สองครั้งล่าสุดในฤดูกาล 2021-22 และ 2024-25 แม้ว่าหลังจากนั้นจะต้องตกรอบในรอบรองชนะเลิศก็ตาม

ขณะนี้อาร์เซนอลเบนความสนใจจากการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกชั่วคราว เพื่อมุ่งมั่นคว้าตั๋วเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

ความพยายามดังกล่าวได้รับแรงหนุนอย่างมากจากชัยชนะ 1-0 เหนือเอฟเวอร์ตัน เมื่อคืนวันเสาร์ ซึ่งทำให้พวกเขาฉลองวันคริสต์มาสในฐานะจ่าฝูงของตารางคะแนน

ทีมของอาร์เตตาเข้าสู่เกมรอบก่อนรองชนะเลิศด้วยผลงานชนะติดต่อกันสามนัดในทุกรายการ

นอกจากนี้ ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกยังคว้าชัยชนะในบ้านได้ถึง 11 จาก 12 นัดในฤดูกาลนี้ รวมถึงชัยชนะในบ้านติดต่อกันเก้านัดหลังสุด

สภาพความฟิตของอาร์เซนอลไม่เปลี่ยนแปลงก่อนเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ โดยอาร์เตตายังไม่สามารถใช้งานแม็กซ์ ดาวแมน (ข้อเท้า), กาเบรียล มากัลเญส (ต้นขา), ไค ฮาแวร์ตซ์ (เข่า), คริสเตียน มอสเกรา (ข้อเท้า) และเบน ไวต์ (แฮมสตริง)

แม้การแข่งขันจะเข้าสู่ช่วงสำคัญ แต่การปรับเปลี่ยนรายชื่อผู้เล่นมีความเป็นไปได้สูง กาเบรียล เชซุส ฮีโร่ในรอบก่อนรองชนะเลิศฤดูกาลที่แล้ว อาจได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม แทนที่วิคตอร์ กโยเคเรส ผู้ทำประตูชัยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เอเบเรชี เอเซ, โนนี มาดูเอเก, กาเบรียล มาร์ติเนลลี และไมลส์ ลูอิส-สเคลลี ต่างก็มีลุ้นขยับขึ้นมาจากม้านั่งสำรอง

แม้แต่โจชัว นิโคลส์ ก็อาจได้รับโอกาสอันหาได้ยาก หลังจากเคยประเดิมสนามกับอาร์เซนอลในรายการนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้วในเกมพบโบลตัน วันเดอเรอร์ส

Crystal Palace

หนึ่งในชัยชนะของอาร์เซนอลในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงชัยชนะเฉือนหนึ่งประตูเหนือคริสตัล พาเลซ เมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งเอเบเรชี เอเซ อดีตผู้เล่นของพาเลซ กลายเป็นฝันร้ายของสโมสรเก่า

ผลการแข่งขันดังกล่าวไม่ใช่การเตรียมทีมที่เหมาะสมสำหรับพาเลซ ก่อนต้องบุกไปเยือนแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูลในอีกสามวันถัดมา

อย่างไรก็ตาม คริสตัล พาเลซ ที่เกือบจัดทีมชุดใหญ่เต็มสูบ กลับเป็นฝ่ายครองเกมและถล่มลิเวอร์พูลซึ่งใช้นักเตะดาวรุ่งและผู้เล่นสำรองหลายราย ไปด้วยสกอร์ 3-0

ชัยชนะนั้นช่วยรักษาความหวังของพาเลซในการคว้าแชมป์รายการที่สามภายในระยะเวลา 12 เดือน หลังจากประสบความสำเร็จในเอฟเอคัพและคอมมิวนิตี้ ชิลด์

ถึงกระนั้น ภาระจากโปรแกรมการแข่งขันทั้งในประเทศและยุโรปเริ่มส่งผลกระทบที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ก ทีมของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เดินทางสู่เอมิเรตส์ สเตเดียม โดยไม่ชนะใครในสามนัดหลังสุดในทุกรายการ รวมถึงความพ่ายแพ้ติดต่อกันสองนัดในพรีเมียร์ลีก

บรรดานักเตะดาวรุ่งของพาเลซทำผลงานได้น่าพอใจในเกมเสมอ 2-2 กับคูพีเอส ในศึกคอนเฟอเรนซ์ลีก

อย่างไรก็ตาม ทีมชุดใหญ่ที่ได้รับการพักกลับพ่ายแพ้อย่างหนัก 4-1 ต่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และเสียไปแล้วเก้าประตูในสามนัดหลังสุด

สถิติการพบกันก็ไม่เป็นใจให้คริสตัล พาเลซ โดยอาร์เซนอลเคยเฉือนชนะพาเลซอย่างดราม่า 3-2 ในรอบก่อนรองชนะเลิศอีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2024-25 จากแฮตทริกของกาเบรียล เชซุส หากผลลัพธ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง อาร์เซนอลจะผ่านเข้าไปพบเชลซีในรอบรองชนะเลิศ

ขณะเดียวกัน พาเลซต้องลงสนามโดยไม่มีอิสไมลา ซาร์ ซึ่งติดภารกิจรับใช้ทีมชาติในศึกแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ รวมถึงดาเนียล มูนญอซ และไดจิ คามาดะ ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณเข่าและต้นขาตามลำดับ

ริโอ คาร์ดีเนส (กล้ามเนื้อ), เชค ดูกูเร (เข่า), คาเลบ คพอร์ฮา (หลัง) และชาดี ริอัด (เข่า) ก็ถูกยืนยันว่าจะพลาดลงสนามเช่นกัน

พาเลซยังต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการใช้งานฌอง-ฟิลิปป์ มาเตตา ที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า

กลาสเนอร์มีแนวโน้มจะดร็อปกองหน้าชาวฝรั่งเศสรายนี้ไว้เป็นตัวสำรอง และมอบโอกาสออกสตาร์ทให้กับคริสตันตุส อูเช

วอลเตอร์ เบนิเตซ, บอร์นา โซซา, เจฟเฟอร์สัน เลร์มา และเจย์ดี แคนโวต ก็มีโอกาสได้ลงสนามเช่นกันตามความจำเป็นในการหมุนเวียนผู้เล่น