Mansion Sports – สโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน อาจมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในเกมกลางสัปดาห์กัลโช่ เซเรียอา เมื่อรายงานจาก Gazzetta dello Sport ระบุว่า มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม กำลังพิจารณาที่จะให้ ซานติอาโก กิเมเนซ ศูนย์หน้าชาวเม็กซิโกออกสตาร์ตจากม้านั่งสำรองในเกมบุกเยือนอตาลันต้า วันอังคารที่จะถึงนี้ การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางฟอร์มการเล่นที่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ของกุนซือชาวอิตาเลียนได้ในฤดูกาลปัจจุบัน

กิเมเนซยังไม่สามารถทำประตูในเซเรียอาได้

นับตั้งแต่ย้ายมาสวมเสื้อ “รอสโซเนรี” ซานติอาโก กิเมเนซ ทำได้เพียงหนึ่งประตูจากการลงสนามทั้งหมดสิบเกมในทุกรายการ และยังไม่สามารถยิงประตูในลีกสูงสุดอิตาลีได้เลย ผลงานดังกล่าวทำให้อัลเลกรีเริ่มแสดงอาการไม่พอใจต่อฟอร์มของดาวยิงวัย 24 ปีรายนี้

ในเกมล่าสุดที่มิลานเสมอกับปิซาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สื่ออิตาลีรายงานว่าอัลเลกรีถึงขั้นตะโกนจากข้างสนามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ พร้อมคำพูดว่า “ตื่นได้แล้ว! เจ้ากำลังหลับอยู่หรือไง?” ซึ่งสะท้อนถึงความผิดหวังของเขาต่อทัศนคติและความมีส่วนร่วมของกิเมเนซระหว่างการแข่งขัน

ทางเลือกใหม่ในแนวรุกของมิลาน

การขาดหายไปของ คริสเตียน พูลิซิช จากอาการบาดเจ็บ ทำให้การจัดทัพของมิลานยิ่งซับซ้อนมากขึ้น หากอัลเลกรีตัดสินใจพักกิเมเนซจริง คาดว่าเขาอาจจะให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าคู่กับ ราฟาเอล เลเอา เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและจังหวะการโจมตีในพื้นที่สุดท้าย

นอกจากนี้ อัลเลกรีอาจเลือกใช้งาน อเล็กซิส เซเลมาเกอร์ส หรือ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ในบทบาทเพลย์เมกเกอร์ เพื่อสนับสนุนแนวรุกสองคนหลัก การปรับระบบเช่นนี้ถูกมองว่าอาจช่วยให้ทีมกลับมามีความหลากหลายในการสร้างสรรค์เกมรุก หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดความเฉียบคมในช่วงหลัง

สถานการณ์ของมิลานในตารางคะแนน

ในขณะนี้ เอซี มิลานเก็บได้ 17 คะแนนจาก 8 นัดในศึกกัลโช่ เซเรียอา อยู่ในอันดับที่สามของตาราง มีคะแนนตามหลังโรม่าและนาโปลีเพียงหนึ่งแต้มเท่านั้น การแข่งขันกับอตาลันต้าที่สนาม นิวบาลานซ์ สเตเดียม จึงถือเป็นบททดสอบสำคัญของอัลเลกรีในการรักษาความต่อเนื่องของฟอร์มการเล่น และพิสูจน์ความกล้าในการปรับแท็กติกใหม่โดยไม่มีดาวยิงหลักลงสนามตั้งแต่ต้นเกม

การตัดสินใจที่จะพักซานติอาโก กิเมเนซในเกมนี้แม้จะเสี่ยงต่อแรงกดดันจากแฟนบอล แต่ก็สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของอัลเลกรีที่ต้องการให้ทุกตำแหน่งในทีมแข่งขันกันอย่างเข้มข้น และส่งสัญญาณชัดเจนว่าผู้เล่นทุกคนต้องแสดงศักยภาพสูงสุดเพื่อพาทีมลุ้นแชมป์เซเรียอาในฤดูกาลนี้