
เออร์ลิง ฮาแลนด์ ไม่พอใจ หลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอ โมนาโก ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
Mansion Sports – เออร์ลิง ฮาแลนด์ ศูนย์หน้าตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงออกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน หลังทีมต้นสังกัดไม่สามารถเก็บชัยชนะเหนือเอเอส โมนาโกได้ แม้เจ้าตัวทำสองประตูที่สนาม สต๊าด หลุยส์ ที่ 2 แต่ผลสุดท้าย “เรือใบสีฟ้า” ต้องยอมรับผลเสมอ 2-2 หลังถูกตีเสมอจากลูกยิงสุดสวยของ จอร์แดน เทเซ และจุดโทษจาก เอริก ดายเออร์ อดีตแข้งท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในนาทีสุดท้ายของเกม
ฮาแลนด์วิจารณ์การเล่นที่ขาดความเฉียบคมของซิตี้ในครึ่งหลัง
หลังจบเกม ฮาแลนด์ไม่สามารถปกปิดความไม่พอใจ โดยเขามองว่าทีมเสียโอกาสสำคัญจากการเล่นที่ดร็อปลงในครึ่งหลัง ทั้งที่ควบคุมสถานการณ์ได้ดีในช่วงแรกของการแข่งขัน
“ผมไม่พอใจแน่นอน เพราะเราไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ ครึ่งหลังเราทำในสิ่งที่ไม่จำเป็นและเล่นได้ไม่ดีพอ ดังนั้นเราจึงไม่สมควรชนะ เราจำเป็นต้องมีพลังงานมากกว่านี้และต้องกดดันพวกเขาเหมือนในครึ่งแรก แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป และโมนาโกทำได้ดีกว่า ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่น่าพอใจ” ฮาแลนด์ให้สัมภาษณ์กับ TNT Sports
ประเด็นปัญหาจุดโทษที่สร้างความไม่พอใจ แต่ฮาแลนด์กลับเห็นต่าง
จังหวะดราม่าเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกม เมื่อผู้ตัดสินตัดสินใจให้จุดโทษแก่โมนาโก หลังจาก นิโก กอนซาเลซ ถูกมองว่ามีการเข้าสกัดอันตรายใส่ เอริก ดายเออร์ การตัดสินใจดังกล่าวทำให้ผู้เล่นและสตาฟฟ์โค้ชของซิตี้ไม่พอใจอย่างรุนแรง จนมีสองคนจากทีมงานถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม
อย่างไรก็ตาม ฮาแลนด์กลับไม่โต้แย้งคำตัดสินของผู้ตัดสิน โดยกล่าวว่า “ผมไม่ได้ดูภาพช้า แต่หากคุณเตะโดนหน้าคู่แข่ง ผมคิดว่ามันก็สมควรเป็นจุดโทษ”
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับการทำผิดพลาดซ้ำรอยจากฤดูกาลก่อน
การปล่อยให้คู่แข่งตามตีเสมอสะท้อนถึงปัญหาที่เคยเกิดขึ้นกับซิตี้ในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาเคยเสียความได้เปรียบหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการนำสามประตูแต่ถูกเฟเยนูร์ดตีเสมอ การแพ้สปอร์ติ้ง ลิสบอน 1-4 ทั้งที่ออกนำก่อน รวมถึงการพ่ายปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-4 หลังขึ้นนำถึงสองประตู
ผลงานเช่นนี้ส่งผลให้ทีมต้องดิ้นรนในช่วงท้ายรอบแบ่งกลุ่ม และสุดท้ายตกรอบเพลย์ออฟด้วยน้ำมือเรอัล มาดริด ด้วยสกอร์รวม 6-3 ปัจจุบันซิตี้รั้งอันดับ 8 ของตารางรอบแบ่งกลุ่ม โดยมี 4 คะแนน ขณะที่เพียง 6 ทีมเท่านั้นที่สามารถคว้าชัยสองนัดติดต่อกัน ทำให้การแข่งขันในฤดูกาลนี้ทวีความเข้มข้นมากขึ้น
กวาร์ดิโอลาจึงหวังว่าทีมจะเรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเกมสำคัญนัดเยือนบียาร์เรอัลในวันที่ 21 ตุลาคมที่จะถึงนี้
เป้าหมายต่อไปคือการกลับไปโฟกัสในพรีเมียร์ลีก
ก่อนกลับมาสู่เวทียุโรป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะต้องหันไปให้ความสำคัญกับศึกพรีเมียร์ลีก โดยมีเป้าหมายไล่ล่าจ่าฝูงอย่างลิเวอร์พูล หลังจากลดช่องว่างเหลือเพียง 5 คะแนนด้วยชัยชนะเหนือเบิร์นลีย์ 5-1 ซิตี้จะลงสนามพบกับเบรนท์ฟอร์ดในสุดสัปดาห์
เบรนท์ฟอร์ดเองกำลังมีความมั่นใจสูงจากการคว้าชัยเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทำให้เกมนี้กลายเป็นบททดสอบสำคัญอีกครั้ง หากซิตี้ต้องการรักษาเส้นทางลุ้นทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลนี้