Mansion Sports – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันตำแหน่งของตนในรอบก่อนรองชนะเลิศของศึกคาราบาวคัพ ฤดูกาล 2025/2026 หลังบุกเอาชนะ สวอนซี ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 3-1 ที่สนามสวอนซี สเตเดียม แม้จะถูกนำไปก่อนจากประตูของ กอนซาโล ฟรังโก ในนาทีที่ 12 แต่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กลับมาได้ด้วยสามประตูจาก เจเรมี โดกู, โอมาร์ มาร์มูช, และ รายาน แชร์กี ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาสู่ฟอร์มที่แข็งแกร่งของซิตี้ หลังตกรอบก่อนเวลาในสองฤดูกาลล่าสุดของรายการนี้ ขณะที่สวอนซีต้องยุติเส้นทางของพวกเขาในฟุตบอลถ้วยในประเทศ แม้จะเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้อย่างน่าประทับใจ

ความดุดันของสวอนซีในช่วงครึ่งแรก

เกมเริ่มต้นด้วยจังหวะที่รัดกุมจากทั้งสองฝ่าย สวอนซีซึ่งเล่นในบ้านของตัวเอง แสดงความมั่นใจตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกและเดินหน้าเปิดเกมรุกทันที แรงกดดันของพวกเขาส่งผลสำเร็จอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 12 เมื่อ จอช คีย์ เอาชนะการป้องกันของ รายาน ไอต์ นูรี ทางกราบขวา ก่อนส่งบอลสั้นให้ กอนซาโล ฟรังโก ยิงโค้งจากระยะ 20 หลา บอลพุ่งเสียบมุมบนเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0

หลังได้ประตู สวอนซีเล่นอย่างมั่นใจและยังคงบุกต่อเนื่อง พวกเขาเกือบจะได้ประตูที่สองในนาทีที่ 32 เมื่อ เมลเกอร์ วีเดลล์ ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ อับดุคอดีร์ คูซานอฟ ก่อนยิงเต็มข้อแต่ถูก เจมส์ แทรฟฟอร์ด ปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม

ฝั่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามสร้างจังหวะบุก แต่แนวรับของสวอนซีที่ตั้งเกมอย่างรัดกุมทำให้แนวรุกที่นำโดย โอมาร์ มาร์มูช ยังไม่สามารถเจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายได้ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก

จังหวะอันตรายครั้งแรกของซิตี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 38 เมื่อ รายาน แชร์กี ยิงระยะใกล้ชนเสา ก่อนที่สถานการณ์จะเริ่มเปลี่ยนในสามนาทีถัดมา เมื่อ เจเรมี โดกู ยิงจากมุมแคบหลังรับบอลจากไอต์ นูรี บอลแฉลบ คาเมรอน เบอร์เจสส์ เข้าไป ทำให้ซิตี้ตามตีเสมอ 1-1

ก่อนหมดครึ่งแรก ทีมเยือนเริ่มคุมจังหวะได้มากขึ้น มาร์มูชสร้างความปั่นป่วนในเขตโทษของสวอนซีหลายครั้ง แต่ทั้งสองทีมยังคงเสมอกันเมื่อจบครึ่งแรก

การพลิกเกมของซิตี้ในครึ่งหลัง

เมื่อเริ่มครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ออกมาเล่นด้วยความมั่นใจและคุมเกมเกือบทั้งหมด โดยมีการครองบอลมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ สวอนซีเปลี่ยนไปเล่นเกมรับแน่นหนาและอาศัยจังหวะสวนกลับผ่าน ไอดาห์ และ อินูซซา

แม้ซิตี้จะสร้างโอกาสหลายครั้ง แต่การจบสกอร์ยังขาดความเฉียบคม ทั้งโดกูและมาร์มูชต่างผลัดกันข่มแนวรับของเจ้าบ้าน ขณะที่การจ่ายบอลของแชร์กีเริ่มสร้างปัญหาให้กับแนวรับของสวอนซีมากขึ้นเรื่อย ๆ

ในนาทีที่ 63 เป๊ป กวาร์ดิโอลา ปรับแท็กติกโดยส่ง ฟิล โฟเดน, จอห์น สโตนส์, และ โยสโก กวาร์ดิโอล ลงสนามทันที การเปลี่ยนตัวเหล่านี้ทำให้จังหวะการเล่นของซิตี้เร็วขึ้นและเฉียบคมกว่าเดิม

แนวรับของสวอนซียังสามารถต้านทานได้จนถึงนาทีที่ 77 ก่อนที่เกมจะพลิก เมื่อ รายาน แชร์กี แทงทะลุช่องอย่างยอดเยี่ยมให้ โอมาร์ มาร์มูช ยิงมุมแคบเข้าเสาในอย่างเฉียบขาด ส่งซิตี้ขึ้นนำ 2-1

สวอนซีพยายามเปิดเกมรุกในช่วงท้ายโดยส่ง เจย์ ฟูลตัน และ เลียม คัลเลน ลงสนาม แต่แนวรับของซิตี้ยังแข็งแกร่งและป้องกันได้ทุกจังหวะ จนในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 ซิตี้ปิดฉากเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อ โยสโก กวาร์ดิโอล นำการสวนกลับก่อนเปิดบอลให้ รายาน แชร์กี ยิงเรียดเข้ามุมล่างเป็นประตู 3-1

ชัยชนะในเกมนี้ส่งให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ผ่านเข้าสู่รอบแปดทีมสุดท้ายของคาราบาวคัพ ส่วนสวอนซีต้องหยุดเส้นทางของพวกเขาในรอบนี้ แม้จะต่อกรกับทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างกล้าหาญ

สถิติการแข่งขัน สวอนซี ซิตี้ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้