โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ยิงแฮตทริกพาบาร์เซโลน่าคว้าชัยเหนือเซลต้า บีโก้ 4-2
Mansion Sports – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้โชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมและกลายเป็นดาวเด่นของการแข่งขัน หลังพาบาร์เซโลน่าบุกเอาชนะเซลต้า บีโก้ในศึกลา ลีกา ฤดูกาล 2025/2026 การแข่งขันนัดที่ 11 ซึ่งจัดขึ้นที่สนามเอสตาดิโอ เด บาไลดอส จบลงด้วยชัยชนะของบาร์เซโลน่าด้วยสกอร์ 4-2
แม้จะคว้า 3 คะแนนสำคัญ แต่บาร์เซโลน่าต้องเล่นด้วยผู้เล่นเพียง 10 คนในช่วงท้ายเกม หลังจากแฟรงกี้ เดอ ยองได้รับใบแดงจากการทำฟาวล์รุนแรง ด้านเซลต้า บีโก้ได้สองประตูจากเซร์คิโอ คาร์เรร่าและบอร์ฆา อิเกลเซียส ส่งผลให้ทีมจากแคว้นกาลิเซียอยู่ในอันดับที่ 13 ของตาราง มี 13 คะแนนจาก 12 นัด ขณะที่บาร์เซโลน่าขยับขึ้นสู่รองจ่าฝูงด้วย 28 คะแนนจากจำนวนนัดเท่ากัน โดยได้ประตูจากเลวานดอฟสกี้ที่ทำแฮตทริกและลามีน ยามาล
ครึ่งแรก: เกมเปิดแลกสุดมันส์และประตูต่อเนื่อง
บาร์เซโลน่าเริ่มเกมด้วยการเปิดเกมบุกใส่เจ้าถิ่นตั้งแต่นาทีแรก แต่เซลต้าก็ไม่ยอมถอยและพยายามใช้ช่องว่างจากแนวรับสูงของบาร์ซาในการทำเกมสวนกลับเร็ว บอร์ฆา อิเกลเซียสเคยมีจังหวะหลุดขึ้นไปแต่ถูกจับล้ำหน้า แสดงให้เห็นถึงแนวทางการเล่นของเจ้าบ้านที่มุ่งใช้บอลทะลุช่องเป็นอาวุธหลัก
ความโชคร้ายเกิดขึ้นกับเซลต้าในนาทีที่ 8 เมื่อ VAR ตรวจพบว่าบอลไปโดนมือของมาร์กอส อลอนโซภายในเขตโทษ กรรมการฮาเวียร์ อัลเบโรลาเป่าให้จุดโทษทันที โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้รับหน้าที่สังหารและยิงเข้าไปอย่างเยือกเย็น บอลพุ่งไปทางขวาของประตูผ่านมือราดูที่เดาทางถูกแต่ป้องกันไม่ทัน บาร์เซโลน่านำ 1-0
อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบนั้นอยู่ได้ไม่นาน เพียงหนึ่งนาทีต่อมา เซลต้า บีโก้ตามตีเสมอได้จากการทำประตูของเซร์คิโอ คาร์เรร่า เริ่มจากการจ่ายทะลุช่องของอิเกลเซียสที่เจาะแนวรับบาร์ซา คาร์เรร่าลากบอลเข้าเขตโทษและยิงผ่านมือเชสนีอย่างเฉียบคม สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
บาร์เซโลน่ามีโอกาสขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 25 หลังจากการประสานงานระหว่างยามาลและโลเปซ บอลไหลมาถึงมาร์คัส แรชฟอร์ดที่ยิงเต็มแรง บอลพุ่งชนเสาก่อนที่เลวานดอฟสกี้จะซ้ำแต่ถูกราดูปัดทิ้งออกไป แรงกดดันของทีมเยือนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เซลต้าต้องถอยลงมาป้องกันและรอจังหวะสวนกลับ
ในที่สุด บาร์เซโลน่าขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 37 เมื่อแรชฟอร์ดเปิดบอลจากทางซ้าย เลวานดอฟสกี้พุ่งเข้าชาร์จลอดขาราดูเข้าประตูไป ทำให้บาร์ซาขึ้นนำ 2-1 แต่ความได้เปรียบนั้นอยู่ได้เพียงหกนาที เมื่อบอร์ฆา อิเกลเซียสยิงไกลจากนอกเขตโทษเข้าประตูอย่างสุดสวย ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2
ในช่วงทดเวลาเจ็บครึ่งแรก ลามีน ยามาลกลายเป็นผู้ทำลายความสมดุลของเกม ในนาทีที่ 45+4 เขาอาศัยจังหวะบอลหลุดในเขตโทษก่อนยิงเข้าประตูอย่างเฉียบขาด บาร์เซโลน่าปิดครึ่งแรกด้วยสกอร์นำ 3-2
ครึ่งหลัง: แฮตทริกของเลวานดอฟสกี้ยืนยันชัยชนะให้บาร์เซโลน่า
เข้าสู่ครึ่งหลัง เซลต้าเปิดเกมบุกเต็มกำลังเพื่อหาประตูตีเสมอ พวกเขาเพิ่มแรงกดดันในแนวรับของบาร์เซโลน่า ยามาลเคยถูกผู้เล่นเจ้าถิ่นสามคนรุม แต่ยังสามารถหลุดหนีได้ก่อนจะถูกคาร์เรร่าทำฟาวล์ ส่งผลให้บาร์ซาได้ตั้งเกมใหม่อีกครั้ง
ในช่วง 20 นาทีแรกของครึ่งหลัง เกมค่อนข้างนิ่ง ทั้งสองทีมเล่นอย่างระมัดระวัง บาร์เซโลน่ามุ่งเน้นการรักษาสกอร์ ขณะที่เซลต้าพยายามหาช่องโจมตีแบบไม่เร่งรีบ การต่อสู้ในแดนกลางระหว่างอิลาช โมริบาและเดอ ยองยิ่งทำให้เกมดูแน่นขึ้น
นาทีที่ 73 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม บาร์เซโลน่าได้ลูกเตะมุมจากแรชฟอร์ด เขาเปิดบอลไปเสาแรก เลวานดอฟสกี้ใช้เทคนิคสะบัดบอลเปลี่ยนทิศเข้ามุมล่างของประตู ทำให้สกอร์กลายเป็น 4-2 และเป็นแฮตทริกของดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ในการแข่งขันนี้
เซลต้าไม่ยอมแพ้และพยายามตอบโต้ในช่วงท้ายเกม แต่กลับเป็นบาร์เซโลน่าที่มีโอกาสอีกครั้ง ในนาทีที่ 88 ยามาลได้หลุดเดี่ยวหลังรับบอลจากโลเปซ แต่ยิงไปชนเสา พลาดโอกาสทำประตูที่ห้าอย่างน่าเสียดาย
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แฟรงกี้ เดอ ยองได้รับใบเหลืองที่สองจากการทำฟาวล์ใส่อัสปาส ทำให้บาร์เซโลน่าต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนในช่วงเวลาสุดท้ายของเกม อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบสองประตูก็เพียงพอที่จะทำให้บาร์เซโลน่าคว้าชัย 4-2 จากเกมอันดุเดือดและเต็มไปด้วยจังหวะเร้าใจ ซึ่งกลายเป็นเวทีอันสมบูรณ์แบบของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
สถิติการแข่งขันเซลต้า บีโก้ พบ บาร์เซโลน่า