ผลการแข่งขันแมนเชสเตอร์ซิตี้พบบอร์นมัธ: ฮาลันด์ทำสองประตูพาทีมเจ้าบ้านคว้าชัย 3-1

ผลการแข่งขันแมนเชสเตอร์ซิตี้พบบอร์นมัธ: ฮาลันด์ทำสองประตูพาทีมเจ้าบ้านคว้าชัย 3-1

Mansion Sportsการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025/2026 นัดที่ 10 ที่สนามเอติฮัด สเตเดียม ปิดฉากลงด้วยชัยชนะของแมนเชสเตอร์ซิตี้เหนือบอร์นมัธด้วยสกอร์ 3-1 โดยเออร์ลิง ฮาลันด์เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้หลังจากทำได้สองประตูในนาทีที่ 17 และ 33 ก่อนที่นิโค โอ’รีลลีจะมาบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตูในครึ่งหลัง ขณะที่ไทเลอร์ อดัมส์ทำประตูตีเสมอให้บอร์นมัธในนาทีที่ 25

การเล่นเปิดเกมรุกของทั้งสองทีมทำให้การแข่งขันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น บอร์นมัธเริ่มเกมด้วยความกล้าในการกดดัน ส่วนแมนเชสเตอร์ซิตี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันสูงในทุกจังหวะการบุก

การประสานงานระหว่างรายาน แชร์กีและฮาลันด์เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม ขณะเดียวกันฟิล โฟเดนและโอ’รีลลีช่วยสร้างสมดุลในแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม

ชัยชนะในครั้งนี้ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ขยับขึ้นสู่อันดับสองของตารางพรีเมียร์ลีกด้วย 19 คะแนน แซงหน้าบอร์นมัธที่ตกลงมาอยู่อันดับสี่มี 18 คะแนน โดยกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงรักษาความแข็งแกร่งของทีมในบ้านได้อย่างต่อเนื่อง

การแข่งขันในครึ่งเวลาแรก

เกมเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นตั้งแต่วินาทีแรก บอร์นมัธเกือบสร้างเซอร์ไพรส์จากการยิงของครูปีที่ส่งบอลเข้าประตูของดอนนารุมมา แต่ผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเสียก่อน 

แมนเชสเตอร์ซิตี้ตอบโต้ทันทีจากโอกาสของฟิล โฟเดน แต่ลูกยิงของเขาถูกเซเนซีสกัดไว้ได้ ฮาลันด์ทดสอบฝีมือของผู้รักษาประตูเปโตรวิชในนาทีที่ 12 แต่ยังไม่สามารถเจาะตาข่ายได้

ในที่สุดความกดดันของเจ้าบ้านก็สัมฤทธิ์ผลในนาทีที่ 17 เมื่อรายาน แชร์กีเปิดบอลด้วยลูกโหม่งให้ฮาลันด์ยิงจบสกอร์อย่างเฉียบขาด ทำให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ขึ้นนำ 1-0

อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบของซิตี้อยู่ได้ไม่นาน เมื่อบอร์นมัธฉวยโอกาสจากลูกเตะมุมที่แนวรับเจ้าถิ่นหลุดตำแหน่ง ไทเลอร์ อดัมส์ยิงประตูตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 25

แมนเชสเตอร์ซิตี้ไม่ยอมแพ้และเดินเกมบุกต่อเนื่อง ดอคูและแบร์นาร์โด ซิลวาสร้างจังหวะอันตรายจากด้านซ้าย แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ มีจังหวะที่ VAR ตรวจสอบแฮนด์บอลของฆิเมเนซ แต่ผู้ตัดสินตัดสินว่าไม่เป็นการฟาวล์

ในนาทีที่ 33 แชร์กีกลับมาเป็นผู้นำจังหวะอีกครั้ง ด้วยการส่งบอลทะลุช่องให้ฮาลันด์หลุดกับดักล้ำหน้าและยิงผ่านเปโตรวิชเป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้ ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ซิตี้นำ 2-1 ซึ่งเป็นประตูที่ 98 ของฮาลันด์ในพรีเมียร์ลีก

บอร์นมัธพยายามตอบโต้จากโอกาสของเซเมนโยและทาเวอร์เนียร์ แต่ดอนนารุมมายังคงเหนียวแน่น ส่วนเปโตรวิชก็ช่วยทีมไว้จากการยิงของดอคูและแชร์กี ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 2-1 เมื่อจบครึ่งแรก

การแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง

ครึ่งหลังแมนเชสเตอร์ซิตี้เริ่มครองเกมได้มากขึ้น นิโค โอ’รีลลีเปิดบอลให้ฮาลันด์ในนาทีที่ 48 แต่ลูกโหม่งลอยข้ามคานไป เซเมนโยลองยิงไกลในนาทีถัดมา แต่บอลยังตรงตัวดอนนารุมมา

ในนาทีที่ 51 การประสานงานของบรูคส์และครูปีเกือบทำให้บอร์นมัธได้ประตู แต่ลูกยิงของครูปีหลุดออกข้างประตูเพียงเล็กน้อย

แมนเชสเตอร์ซิตี้กลับมาโต้ด้วยเกมเร็วผ่านฟิล โฟเดนและแชร์กี แต่ยังไม่สามารถเพิ่มสกอร์ได้ จังหวะสำคัญเกิดขึ้นในนาทีที่ 60 เมื่อโฟเดนซึ่งลงเล่นครบ 200 นัดในพรีเมียร์ลีก ส่งบอลให้โอ’รีลลีหลุดเข้าเขตโทษและยิงเรียดเข้ามุมล่างของประตู พาซิตี้นำห่างเป็น 3-1

แม้บอร์นมัธพยายามเร่งเกมเพื่อไล่ตีตื้น โดยมีโอกาสจากเซเมนโยและทาเวอร์เนียร์ รวมถึงลูกยิงที่กวาร์ดิโอลสกัดได้ในนาทีที่ 92 แต่แนวรับของซิตี้ยังคงเหนียวแน่น

ก่อนหมดเวลา ซาวินโญเกือบเพิ่มประตูที่สี่ให้เจ้าบ้านแต่ยิงเฉี่ยวข้างตาข่ายไปเล็กน้อย ขณะที่เรย์เยนเดอร์สบังคับให้เปโตรวิชเซฟอีกครั้งในนาทีที่ 95

เสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้นพร้อมชัยชนะของแมนเชสเตอร์ซิตี้ คู่หูระหว่างรายาน แชร์กีและเออร์ลิง ฮาลันด์พิสูจน์ให้เห็นถึงความอันตรายในแนวรุกอีกครั้ง ส่วนบอร์นมัธต้องยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งแรกในสี่นัดหลังสุด

สถิติการแข่งขันแมนเชสเตอร์ซิตี้พบบอร์นมัธ

สถิติ

แมนเชสเตอร์ซิตี้

บอร์นมัธ

จำนวนการยิงทั้งหมด

18

9

ยิงตรงกรอบ

7

5

การครองบอล

48%

52%

จำนวนการจ่ายบอล

444

361

ความแม่นยำในการจ่ายบอล

89%

91%

จำนวนฟาวล์

7

11

ใบเหลือง

2

2

ใบแดง

0

0

ล้ำหน้า

0

3

เตะมุม

9

4

Related News

ผลการแข่งขันแมนเชสเตอร์ซิตี้พบบอร์นมัธ: ฮาลันด์ทำสองประตูพาทีมเจ้าบ้านคว้าชัย 3-1

ผลการแข่งขันแมนเชสเตอร์ซิตี้พบบอร์นมัธ: ฮาลันด์ทำสองประตูพาทีมเจ้าบ้านคว้าชัย 3-1

Mansion Sportsการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025/2026 นัดที่ 10 ที่สนามเอติฮัด สเตเดียม ปิดฉากลงด้วยชัยชนะของแมนเชสเตอร์ซิตี้เหนือบอร์นมัธด้วยสกอร์ 3-1 โดยเออร์ลิง ฮาลันด์เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้หลังจากทำได้สองประตูในนาทีที่ 17 และ 33 ก่อนที่นิโค โอ’รีลลีจะมาบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตูในครึ่งหลัง ขณะที่ไทเลอร์ อดัมส์ทำประตูตีเสมอให้บอร์นมัธในนาทีที่ 25

การเล่นเปิดเกมรุกของทั้งสองทีมทำให้การแข่งขันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น บอร์นมัธเริ่มเกมด้วยความกล้าในการกดดัน ส่วนแมนเชสเตอร์ซิตี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันสูงในทุกจังหวะการบุก

การประสานงานระหว่างรายาน แชร์กีและฮาลันด์เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม ขณะเดียวกันฟิล โฟเดนและโอ’รีลลีช่วยสร้างสมดุลในแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม

ชัยชนะในครั้งนี้ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ขยับขึ้นสู่อันดับสองของตารางพรีเมียร์ลีกด้วย 19 คะแนน แซงหน้าบอร์นมัธที่ตกลงมาอยู่อันดับสี่มี 18 คะแนน โดยกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงรักษาความแข็งแกร่งของทีมในบ้านได้อย่างต่อเนื่อง

การแข่งขันในครึ่งเวลาแรก

เกมเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นตั้งแต่วินาทีแรก บอร์นมัธเกือบสร้างเซอร์ไพรส์จากการยิงของครูปีที่ส่งบอลเข้าประตูของดอนนารุมมา แต่ผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเสียก่อน 

แมนเชสเตอร์ซิตี้ตอบโต้ทันทีจากโอกาสของฟิล โฟเดน แต่ลูกยิงของเขาถูกเซเนซีสกัดไว้ได้ ฮาลันด์ทดสอบฝีมือของผู้รักษาประตูเปโตรวิชในนาทีที่ 12 แต่ยังไม่สามารถเจาะตาข่ายได้

ในที่สุดความกดดันของเจ้าบ้านก็สัมฤทธิ์ผลในนาทีที่ 17 เมื่อรายาน แชร์กีเปิดบอลด้วยลูกโหม่งให้ฮาลันด์ยิงจบสกอร์อย่างเฉียบขาด ทำให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ขึ้นนำ 1-0

อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบของซิตี้อยู่ได้ไม่นาน เมื่อบอร์นมัธฉวยโอกาสจากลูกเตะมุมที่แนวรับเจ้าถิ่นหลุดตำแหน่ง ไทเลอร์ อดัมส์ยิงประตูตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 25

แมนเชสเตอร์ซิตี้ไม่ยอมแพ้และเดินเกมบุกต่อเนื่อง ดอคูและแบร์นาร์โด ซิลวาสร้างจังหวะอันตรายจากด้านซ้าย แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ มีจังหวะที่ VAR ตรวจสอบแฮนด์บอลของฆิเมเนซ แต่ผู้ตัดสินตัดสินว่าไม่เป็นการฟาวล์

ในนาทีที่ 33 แชร์กีกลับมาเป็นผู้นำจังหวะอีกครั้ง ด้วยการส่งบอลทะลุช่องให้ฮาลันด์หลุดกับดักล้ำหน้าและยิงผ่านเปโตรวิชเป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้ ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ซิตี้นำ 2-1 ซึ่งเป็นประตูที่ 98 ของฮาลันด์ในพรีเมียร์ลีก

บอร์นมัธพยายามตอบโต้จากโอกาสของเซเมนโยและทาเวอร์เนียร์ แต่ดอนนารุมมายังคงเหนียวแน่น ส่วนเปโตรวิชก็ช่วยทีมไว้จากการยิงของดอคูและแชร์กี ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 2-1 เมื่อจบครึ่งแรก

การแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง

ครึ่งหลังแมนเชสเตอร์ซิตี้เริ่มครองเกมได้มากขึ้น นิโค โอ’รีลลีเปิดบอลให้ฮาลันด์ในนาทีที่ 48 แต่ลูกโหม่งลอยข้ามคานไป เซเมนโยลองยิงไกลในนาทีถัดมา แต่บอลยังตรงตัวดอนนารุมมา

ในนาทีที่ 51 การประสานงานของบรูคส์และครูปีเกือบทำให้บอร์นมัธได้ประตู แต่ลูกยิงของครูปีหลุดออกข้างประตูเพียงเล็กน้อย

แมนเชสเตอร์ซิตี้กลับมาโต้ด้วยเกมเร็วผ่านฟิล โฟเดนและแชร์กี แต่ยังไม่สามารถเพิ่มสกอร์ได้ จังหวะสำคัญเกิดขึ้นในนาทีที่ 60 เมื่อโฟเดนซึ่งลงเล่นครบ 200 นัดในพรีเมียร์ลีก ส่งบอลให้โอ’รีลลีหลุดเข้าเขตโทษและยิงเรียดเข้ามุมล่างของประตู พาซิตี้นำห่างเป็น 3-1

แม้บอร์นมัธพยายามเร่งเกมเพื่อไล่ตีตื้น โดยมีโอกาสจากเซเมนโยและทาเวอร์เนียร์ รวมถึงลูกยิงที่กวาร์ดิโอลสกัดได้ในนาทีที่ 92 แต่แนวรับของซิตี้ยังคงเหนียวแน่น

ก่อนหมดเวลา ซาวินโญเกือบเพิ่มประตูที่สี่ให้เจ้าบ้านแต่ยิงเฉี่ยวข้างตาข่ายไปเล็กน้อย ขณะที่เรย์เยนเดอร์สบังคับให้เปโตรวิชเซฟอีกครั้งในนาทีที่ 95

เสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้นพร้อมชัยชนะของแมนเชสเตอร์ซิตี้ คู่หูระหว่างรายาน แชร์กีและเออร์ลิง ฮาลันด์พิสูจน์ให้เห็นถึงความอันตรายในแนวรุกอีกครั้ง ส่วนบอร์นมัธต้องยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งแรกในสี่นัดหลังสุด

สถิติการแข่งขันแมนเชสเตอร์ซิตี้พบบอร์นมัธ

สถิติ

แมนเชสเตอร์ซิตี้

บอร์นมัธ

จำนวนการยิงทั้งหมด

18

9

ยิงตรงกรอบ

7

5

การครองบอล

48%

52%

จำนวนการจ่ายบอล

444

361

ความแม่นยำในการจ่ายบอล

89%

91%

จำนวนฟาวล์

7

11

ใบเหลือง

2

2

ใบแดง

0

0

ล้ำหน้า

0

3

เตะมุม

9

4

Related News