Mansion Sports – ซีเนดีน ซีดาน สร้างกระแสความตื่นเต้นในวงการฟุตบอลอีกครั้ง หลังออกมาเปิดเผยว่าเขาจะกลับมาทำงานในฐานะผู้จัดการทีม “ในเวลาอันใกล้นี้” อดีตกุนซือของเรอัล มาดริดไม่ได้รับงานคุมทีมใดนับตั้งแต่ปี 2021 แต่ด้วยกระแสข่าวที่ว่า ดิดิเยร์ เดชองส์ อาจอำลาตำแหน่งหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2026 ทำให้เกิดการคาดการณ์อย่างหนักว่าซีดานจะเข้ามารับหน้าที่ต่อ ความเคลื่อนไหวและคำพูดล่าสุดของซีดานชี้ให้เห็นว่าช่วงเวลาแห่งการรอคอยของเขาใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

สัญญาณจากซีดานจุดกระแสการกลับมาคุมทีมอีกครั้ง

ตำนานลูกหนังชาวฝรั่งเศสรายนี้ได้ปลุกกระแสเกี่ยวกับอนาคตของตนเองในสายอาชีพผู้จัดการทีม หลังจากยืนยันว่าการกลับมาของเขาในวงการคุมทีมกำลังใกล้เข้ามา ในงานการกุศลที่เมืองตูลง เจ้าของรางวัลฟุตบอลโลกปี 1998 ถูกถามถึงแผนในอนาคต และเขาตอบอย่างสั้นแต่มีนัยสำคัญว่า “มันจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เร็วมาก ๆ”

ซีดานไม่ได้รับงานคุมทีมใดนับตั้งแต่แยกทางกับเรอัล มาดริดเป็นครั้งที่สองเมื่อปี 2021 ช่วงเวลาหยุดพักของเขากลับยิ่งเพิ่มความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่หลายสโมสรใหญ่มีการเปลี่ยนกุนซือกันหลายราย แม้จะมีข่าวว่าเขาได้รับข้อเสนอจากหลายทีม แต่ซีดานยังคงแสดงความอดทนและเลือกพิจารณาอย่างรอบคอบ ความเงียบของเขาในช่วงสองปีที่ผ่านมาเคยทำให้หลายฝ่ายคิดว่าเขาอาจวางมือจากวงการนี้แล้ว แต่คำกล่าวล่าสุดของเขายืนยันว่าการกลับมาของซีดานอยู่ไม่ไกลนัก

ซีดานกล่าวในงานการกุศลที่ตูลงและเทศกาลกีฬาเมืองเทรนโต

คำพูดของซีดานถูกกล่าวขึ้นในงานกาลาการกุศล ซึ่งเขาไม่สามารถลงเล่นได้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณต้นขา “เรากำลังมีอายุมากขึ้น และบางครั้งอาการบาดเจ็บก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้ผมจะกลับมาเป็นโค้ชอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้” ซีดานกล่าวด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนถึงการกลับสู่เส้นทางอาชีพโค้ชของเขา

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซีดานพูดถึงอนาคตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะร่วมงาน Festival dello Sport ที่เมืองเทรนโตเมื่อเดือนก่อน เขาได้ยอมรับว่า “ผมอยากเป็นเฮดโค้ชทีมชาติฝรั่งเศสในวันหนึ่ง” พร้อมเสริมว่า “ผมจะกลับมาคุมทีมอีกแน่นอน”

ถ้อยคำของเขาสอดคล้องกับรายงานที่มีมานานว่า ซีดานกำลังรอโอกาสที่จะได้คุมทีมชาติฝรั่งเศส ดิดิเยร์ เดชองส์ ผู้ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2014 ยังมีสัญญาถึงหลังฟุตบอลโลก 2026 และได้ยืนยันแล้วว่าช่วงเวลานั้นจะเป็นการปิดฉากการทำงานของเขา เส้นเวลานี้จึงดูเหมาะสมกับท่าทีของซีดานที่รออย่างอดทน

นอกจากนี้ ซีดานยังพูดถึงข่าวลือเรื่องความเป็นไปได้ในการคุมยูเวนตุส โดยกล่าวว่า “ผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงไม่เกิดขึ้น ผมยังคงมีสโมสรนี้อยู่ในใจเสมอ เพราะพวกเขาได้มอบสิ่งสำคัญให้กับผมมากมาย”

การรอคอยการกลับมาของซีดานในวงการคุมทีม

ซีดานเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ทั้งในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม ช่วงเวลาที่เขาคุมเรอัล มาดริดสองสมัยนั้น เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้สามสมัยติดต่อกัน ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้ในยุคใหม่ รวมถึงคว้าแชมป์ลาลีกาอีกสองครั้ง

เขาเริ่มงานคุมทีมในถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบวอย่างเป็นทางการในปี 2016 หลังจากทำหน้าที่โค้ชทีมกัสติยา และในเวลาเพียงสองปี เขานำทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้ถึงสามครั้ง ก่อนจะตัดสินใจลาออกอย่างกะทันหัน จากนั้นเขากลับมารับตำแหน่งอีกครั้งในปี 2019 เมื่อมาดริดประสบปัญหาภายใต้การคุมทีมของจูเลน โลเปเตกี และซานติอาโก โซลารี

ซีดานออกจากสโมสรในเดือนพฤษภาคม 2021 และตั้งแต่นั้นมาปฏิเสธข้อเสนอมากมายจากทั้งสโมสรในยุโรปและทีมชาติ การคุมทีมชาติฝรั่งเศสดูเหมือนจะเป็นก้าวต่อไปที่เป็นธรรมชาติในเส้นทางของเขา

เรอัล มาดริดไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป ทีมชาติฝรั่งเศสคือจุดหมายที่เป็นไปได้มากที่สุด

แม้ว่าซีดานจะยังเป็นบุคคลที่ได้รับการเคารพอย่างสูงที่เรอัล มาดริด แต่ในเวลานี้สโมสรไม่ได้มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนผู้จัดการทีม ชาบี อลอนโซ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซน กำลังพาทีมมาดริดทำผลงานได้ดีเยี่ยมและมีแนวโน้มจะอยู่ในแผนระยะยาวของสโมสร

ขณะเดียวกัน ปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง ก็ดูไม่น่าจะเป็นปลายทางของซีดาน เนื่องจากความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขากับเมืองมาร์กเซย ส่วนยูเวนตุสเองก็อยู่ในช่วงปรับโครงสร้างใหม่ภายใต้การคุมทีมของลูชาโน สปัลเล็ตติ ดังนั้น ตัวเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับซีดานคือทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งมีความหมายในเชิงวัฒนธรรมและอารมณ์อย่างลึกซึ้ง

ซีดานยังมีเรื่องที่ยังค้างคาใจกับ “เลส์ เบลอส์” หลังจากอาชีพในทีมชาติของเขาสิ้นสุดลงด้วยเหตุการณ์ใบแดงในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 การกลับมาคุมทีมชาติและพาทีมคว้าแชมป์ใหญ่อีกครั้งจะเป็นการปิดฉากที่มีความหมายและทรงพลัง

ณ ตอนนี้ ซีดานยังไม่ได้เซ็นสัญญากับทีมใด แต่ข้อความของเขาชัดเจน — การกลับมาของเขาในฐานะผู้จัดการทีมอยู่ไม่ไกล และสายตาทั้งหมดกำลังจับจ้องไปที่ช่วงเวลาสำคัญซึ่งอาจมาถึงหลังจากดิดิเยร์ เดชองส์พาทีมชาติฝรั่งเศสลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 จบสิ้นลง