เชลซีผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศคาราบาวคัพ 2025/2026 หลังเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 4-3 ในศึกดวลสุดมันที่โมลินิวซ์

เชลซีผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศคาราบาวคัพ 2025/2026 หลังเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 4-3 ในศึกดวลสุดมันที่โมลินิวซ์

Mansion Sports – เชลซี การันตีตั๋วเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศศึกคาราบาวคัพ ฤดูกาล 2025/2026 หลังบุกเฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 4-3 ในเกมสุดดราม่าที่สนามโมลินิวซ์ สเตเดียม การแข่งขันที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นนี้มีถึงเจ็ดประตูและหนึ่งใบแดง โดย อันเดรย์ ซานโตส (นาที 5), ไทริก จอร์จ (นาที 15), เอสเตวาโอ (นาที 41) และ เจมี กิตเทนส์ (นาที 89) เป็นผู้ทำประตูให้ทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” ส่วนเจ้าถิ่นได้ประตูจาก โตลู อาโรโคดาเร (นาที 48) และสองประตูของ เดวิด มอลเลอร์ วูล์ฟ (นาที 73 และ 90+1) แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์ได้

ชัยชนะในเกมนี้ช่วยยืดสถิติไร้พ่ายของเชลซีในศึกคาราบาวคัพ พร้อมมอบแรงผลักดันเชิงบวกให้กับ เอนโซ มาเรสกา หลังความพ่ายแพ้ในลีก ส่วน วูล์ฟแฮมป์ตัน ของ วิตอร์ เปไรรา ต้องจอดป้ายในรอบนี้ แม้จะมีความพยายามอย่างหนักในครึ่งหลัง

ความเหนือชั้นของเชลซีในครึ่งแรก

เชลซีเปิดเกมด้วยท่าทีดุดันและเดินหน้ากดดันแนวรับของเจ้าบ้านตั้งแต่ต้น และความพยายามของพวกเขาเห็นผลอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 5 เมื่อ เจมี กิตเทนส์ เจาะทะลุแนวรับก่อนเปิดให้ อันเดรย์ ซานโตส ยิงผ่าน โชเซ ซา เข้าไปเป็นประตูแรกของฤดูกาลสำหรับเจ้าตัว

เพียงสิบห้านาทีต่อมา เชลซีบวกประตูที่สองได้สำเร็จ กิตเทนส์ยังคงเป็นผู้ออกแบบเกมรุกทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบอลเรียดให้ ไทริก จอร์จ ยิงระยะเผาขนไม่พลาด ส่งให้ทีมเยือนนำห่าง 2-0 ท่ามกลางความเงียบของแฟนบอลในสนามโมลินิวซ์

วูล์ฟแฮมป์ตันพยายามตอบโต้ผ่าน ฮวาง ฮีชาน และ อาโรโคดาเร แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดความคม โดยเฉพาะโอกาสทองจากลูกโหม่งของอาโรโคดาเรที่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

สถานการณ์ของเจ้าบ้านย่ำแย่ลงในนาทีที่ 41 เมื่อ แฟร์ โลเปซ ทำพลาดในแดนหลังจนซานโตสฉกบอลไปได้ ก่อนจ่ายให้ เอสเตวาโอ ชิพบอลข้ามหัวโชเซ ซา เข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้เชลซีนำห่าง 3-0

ตลอดครึ่งแรก เชลซีแสดงให้เห็นถึงการครองบอลที่เหนือกว่าและการโจมตีที่เฉียบคม ในขณะที่วูล์ฟแฮมป์ตันยังขาดความเชื่อมโยงในแนวรุก เมื่อหมดครึ่งแรก ทีมเยือนนำ 3-0 อย่างมั่นใจ

การตอบโต้ของวูล์ฟในครึ่งหลังและดราม่าท้ายเกม

เข้าสู่ครึ่งหลัง วิตอร์ เปไรรา ปรับเกมด้วยการส่งผู้เล่นสำรองลงสนาม และการเปลี่ยนแปลงนั้นส่งผลทันที นาทีที่ 48 ฮวาง ฮีชาน แทงทะลุช่องให้ โตลู อาโรโคดาเร ปั่นโค้งเสียบมุมอย่างงดงาม ลดช่องว่างลงมาเป็น 3-1

ประตูดังกล่าวปลุกพลังของเจ้าถิ่นให้กลับมามีชีวิตชีวา วูล์ฟแฮมป์ตันเดินหน้าบุกต่อเนื่อง โดยอาโรโคดาเรและสตรานด์ ลาร์เซนได้โอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง แต่ยังติดเซฟของ ฟิลิป ยอร์เกนเซน ที่เล่นได้อย่างเหนียวแน่น

ฝั่งเชลซี เอนโซ มาเรสกา ตอบสนองด้วยการเปลี่ยนตัวสามคนรวด ส่ง มาร์ก คูคูเรญา, เอนโซ เฟร์นานเดซ, และ เลียม เดแล็ป ลงมาเพื่อควบคุมจังหวะเกม อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นยังคงได้ใจและบุกอย่างต่อเนื่อง

ในนาทีที่ 73 วูล์ฟแฮมป์ตันตีตื้นอีกครั้งจากลูกทุ่มไกลของ เยอร์ซอน มอสเกวรา ที่สร้างความวุ่นวายในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ เดวิด มอลเลอร์ วูล์ฟ จะซัดด้วยซ้ายเข้าประตู ทำให้สกอร์ไล่มา 3-2

เกมดูเหมือนจะเปลี่ยนข้างเมื่อเชลซีเหลือผู้เล่นสิบคนในนาทีที่ 86 หลัง เลียม เดแล็ป ถูกใบแดงจากการทำฟาวล์สองครั้งติด แต่เพียงสามนาทีต่อมา เชลซีกลับทวงคืนความได้เปรียบได้สำเร็จ

ในนาทีที่ 89 จอร์เรล ฮาโต จ่ายบอลให้ เจมี กิตเทนส์ ยิงไซด์นอกสุดสวย บอลพุ่งชนเสาและเด้งเข้าประตูเป็น 4-2 ให้ทีมเยือนหนีห่างอีกครั้ง

แม้เกมจะเข้าสู่ช่วงทดเวลา แต่ความตื่นเต้นยังไม่จบ นาทีที่ 90+1 เดวิด มอลเลอร์ วูล์ฟ เก็บบอลจังหวะสองในเขตโทษก่อนยิงเข้าประตูเป็น 4-3 อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหลือไม่มากพอสำหรับเจ้าบ้านจะตีเสมอ และเมื่อครบเจ็ดนาทีของช่วงทดเวลา ผู้ตัดสินเป่านกหวีดปิดเกม ส่งผลให้เชลซีคว้าชัยสุดระทึกเหนือวูล์ฟแฮมป์ตันไป 4-3

สถิติการแข่งขัน วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เชลซี

รายการ

วูล์ฟแฮมป์ตัน

เชลซี

จำนวนการยิงทั้งหมด

15

11

ยิงตรงกรอบ

4

4

ครองบอล

39%

61%

ฟาวล์

13

11

ใบเหลือง

3

5

ใบแดง

0

1

ล้ำหน้า

1

1

เตะมุม

4

1

Related News

เชลซีผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศคาราบาวคัพ 2025/2026 หลังเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 4-3 ในศึกดวลสุดมันที่โมลินิวซ์

เชลซีผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศคาราบาวคัพ 2025/2026 หลังเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 4-3 ในศึกดวลสุดมันที่โมลินิวซ์

Mansion Sports – เชลซี การันตีตั๋วเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศศึกคาราบาวคัพ ฤดูกาล 2025/2026 หลังบุกเฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 4-3 ในเกมสุดดราม่าที่สนามโมลินิวซ์ สเตเดียม การแข่งขันที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นนี้มีถึงเจ็ดประตูและหนึ่งใบแดง โดย อันเดรย์ ซานโตส (นาที 5), ไทริก จอร์จ (นาที 15), เอสเตวาโอ (นาที 41) และ เจมี กิตเทนส์ (นาที 89) เป็นผู้ทำประตูให้ทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” ส่วนเจ้าถิ่นได้ประตูจาก โตลู อาโรโคดาเร (นาที 48) และสองประตูของ เดวิด มอลเลอร์ วูล์ฟ (นาที 73 และ 90+1) แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์ได้

ชัยชนะในเกมนี้ช่วยยืดสถิติไร้พ่ายของเชลซีในศึกคาราบาวคัพ พร้อมมอบแรงผลักดันเชิงบวกให้กับ เอนโซ มาเรสกา หลังความพ่ายแพ้ในลีก ส่วน วูล์ฟแฮมป์ตัน ของ วิตอร์ เปไรรา ต้องจอดป้ายในรอบนี้ แม้จะมีความพยายามอย่างหนักในครึ่งหลัง

ความเหนือชั้นของเชลซีในครึ่งแรก

เชลซีเปิดเกมด้วยท่าทีดุดันและเดินหน้ากดดันแนวรับของเจ้าบ้านตั้งแต่ต้น และความพยายามของพวกเขาเห็นผลอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 5 เมื่อ เจมี กิตเทนส์ เจาะทะลุแนวรับก่อนเปิดให้ อันเดรย์ ซานโตส ยิงผ่าน โชเซ ซา เข้าไปเป็นประตูแรกของฤดูกาลสำหรับเจ้าตัว

เพียงสิบห้านาทีต่อมา เชลซีบวกประตูที่สองได้สำเร็จ กิตเทนส์ยังคงเป็นผู้ออกแบบเกมรุกทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบอลเรียดให้ ไทริก จอร์จ ยิงระยะเผาขนไม่พลาด ส่งให้ทีมเยือนนำห่าง 2-0 ท่ามกลางความเงียบของแฟนบอลในสนามโมลินิวซ์

วูล์ฟแฮมป์ตันพยายามตอบโต้ผ่าน ฮวาง ฮีชาน และ อาโรโคดาเร แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดความคม โดยเฉพาะโอกาสทองจากลูกโหม่งของอาโรโคดาเรที่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

สถานการณ์ของเจ้าบ้านย่ำแย่ลงในนาทีที่ 41 เมื่อ แฟร์ โลเปซ ทำพลาดในแดนหลังจนซานโตสฉกบอลไปได้ ก่อนจ่ายให้ เอสเตวาโอ ชิพบอลข้ามหัวโชเซ ซา เข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้เชลซีนำห่าง 3-0

ตลอดครึ่งแรก เชลซีแสดงให้เห็นถึงการครองบอลที่เหนือกว่าและการโจมตีที่เฉียบคม ในขณะที่วูล์ฟแฮมป์ตันยังขาดความเชื่อมโยงในแนวรุก เมื่อหมดครึ่งแรก ทีมเยือนนำ 3-0 อย่างมั่นใจ

การตอบโต้ของวูล์ฟในครึ่งหลังและดราม่าท้ายเกม

เข้าสู่ครึ่งหลัง วิตอร์ เปไรรา ปรับเกมด้วยการส่งผู้เล่นสำรองลงสนาม และการเปลี่ยนแปลงนั้นส่งผลทันที นาทีที่ 48 ฮวาง ฮีชาน แทงทะลุช่องให้ โตลู อาโรโคดาเร ปั่นโค้งเสียบมุมอย่างงดงาม ลดช่องว่างลงมาเป็น 3-1

ประตูดังกล่าวปลุกพลังของเจ้าถิ่นให้กลับมามีชีวิตชีวา วูล์ฟแฮมป์ตันเดินหน้าบุกต่อเนื่อง โดยอาโรโคดาเรและสตรานด์ ลาร์เซนได้โอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง แต่ยังติดเซฟของ ฟิลิป ยอร์เกนเซน ที่เล่นได้อย่างเหนียวแน่น

ฝั่งเชลซี เอนโซ มาเรสกา ตอบสนองด้วยการเปลี่ยนตัวสามคนรวด ส่ง มาร์ก คูคูเรญา, เอนโซ เฟร์นานเดซ, และ เลียม เดแล็ป ลงมาเพื่อควบคุมจังหวะเกม อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นยังคงได้ใจและบุกอย่างต่อเนื่อง

ในนาทีที่ 73 วูล์ฟแฮมป์ตันตีตื้นอีกครั้งจากลูกทุ่มไกลของ เยอร์ซอน มอสเกวรา ที่สร้างความวุ่นวายในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ เดวิด มอลเลอร์ วูล์ฟ จะซัดด้วยซ้ายเข้าประตู ทำให้สกอร์ไล่มา 3-2

เกมดูเหมือนจะเปลี่ยนข้างเมื่อเชลซีเหลือผู้เล่นสิบคนในนาทีที่ 86 หลัง เลียม เดแล็ป ถูกใบแดงจากการทำฟาวล์สองครั้งติด แต่เพียงสามนาทีต่อมา เชลซีกลับทวงคืนความได้เปรียบได้สำเร็จ

ในนาทีที่ 89 จอร์เรล ฮาโต จ่ายบอลให้ เจมี กิตเทนส์ ยิงไซด์นอกสุดสวย บอลพุ่งชนเสาและเด้งเข้าประตูเป็น 4-2 ให้ทีมเยือนหนีห่างอีกครั้ง

แม้เกมจะเข้าสู่ช่วงทดเวลา แต่ความตื่นเต้นยังไม่จบ นาทีที่ 90+1 เดวิด มอลเลอร์ วูล์ฟ เก็บบอลจังหวะสองในเขตโทษก่อนยิงเข้าประตูเป็น 4-3 อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหลือไม่มากพอสำหรับเจ้าบ้านจะตีเสมอ และเมื่อครบเจ็ดนาทีของช่วงทดเวลา ผู้ตัดสินเป่านกหวีดปิดเกม ส่งผลให้เชลซีคว้าชัยสุดระทึกเหนือวูล์ฟแฮมป์ตันไป 4-3

สถิติการแข่งขัน วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ เชลซี

รายการ

วูล์ฟแฮมป์ตัน

เชลซี

จำนวนการยิงทั้งหมด

15

11

ยิงตรงกรอบ

4

4

ครองบอล

39%

61%

ฟาวล์

13

11

ใบเหลือง

3

5

ใบแดง

0

1

ล้ำหน้า

1

1

เตะมุม

4

1

Related News